รองนายกฯ ธรรมนัสลงพื้นที่หาดใหญ่ ตั้งศูนย์บัญชาการกลางสั่งการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง เร่งอพยพ–ส่งอาหาร–แก้ไฟดับ พร้อมใช้เฮลิคอปเตอร์รับผู้ป่วยฉุกเฉินทันที เผยฝนเริ่มลดวันนี้–คาดสถานการณ์กลับสู่ปกติภายใน 3 วัน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.) ลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการกลางเพื่อบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมอย่างเร่งด่วน โดยยืนยันว่ารัฐบาลระดมกำลังทุกหน่วยงานเข้าช่วยเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ร้อยเอก ธรรมนัส เปิดเผยหลังประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า ขณะนี้ปัญหาหลักคือโรงพยาบาลหลายแห่งไฟฟ้าดับ ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ต้องใช้ออกซิเจนได้รับผลกระทบ จึงประสานกองทัพทั้งสามเหล่าทัพ ปภ. และกระทรวงเกษตรฯ ระดมทีมแก้ระบบไฟและลำเลียงผู้ป่วย พร้อมตั้งศูนย์อพยพเพิ่มเติมที่โรงแรมซิกเนเจอร์
ด้านการกระจายเสบียง รมว.เกษตรฯ มอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 4 วางระบบส่งอาหารซึ่งยืนยันว่ามีเพียงพอ แต่ต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก เรือเจ็ตสกีและเรือท้องแบนไม่สามารถเข้าถึงหลายจุด จึงต้องใช้เรือแรงม้าสูง เรือหางยาวของชาวประมง และเรือหน่วยซีลสนับสนุนภารกิจฉุกเฉิน
กรณีคลิปประชาชนตะโกนขอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน ร้อยเอก ธรรมนัสระบุว่า วันนี้จะปรับระบบบัญชาการใหม่เพื่อเข้าช่วยเหลือได้จริง เนื่องจากน้ำจาก อ.สะเดาไหลลงสมทบกับน้ำใน อ.หาดใหญ่ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นรวดเร็วและหลากเชี่ยว ทำให้เข้าถึงได้ยาก ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าฝนวันนี้เป็นช่วงตกหนักวันสุดท้าย และจะเริ่มเบาลงในวันถัดไป เปิดโอกาสให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำ โดยได้เปิดบานประตูทุกจุดแล้ว คาดสถานการณ์จะคลี่คลายใน 3 วัน
ระหว่างการลงพื้นที่ได้มีชาวบ้านในหมู่ 3 ตำบลขลุง ร้องขอความช่วยเหลือว่ามีผู้ป่วยสูงอายุ 2 ราย ไม่ได้ฟอกไตมาเกิน 5 วัน เพราะถูกตัดขาดจากถนนทุกสาย ร้อยเอก ธรรมนัสจึงสั่งใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรฯ บินเข้ารับผู้ป่วยทันที และนำส่งโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย ก่อนบินสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อวางแผนหย่อนอาหารให้ผู้ที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านจำนวนมาก
ร้อยเอก ธรรมนัสย้ำว่า รัฐบาลรับทราบปัญหาอย่างครบถ้วนและกำลังระดมศักยภาพทุกด้าน โดยสั่งเร่งระบายน้ำจากทะเลสาบสงขลาลงสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด ข้อมูลจากการบินสำรวจแม้จะไม่สามารถหย่อนสิ่งของได้ทุกจุด แต่มีความละเอียดเพียงพอสำหรับจัดกำลังเข้าพื้นที่ทันที พร้อมมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 4 ควบคุมปฏิบัติการทั้งหมด โดยมีทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กรมประมง และเครือข่ายจิตอาสาเจ็ตสกีร่วมสนับสนุนการอพยพประชาชนกลุ่มเสี่ยง
สำหรับประชาชนที่ยังต้องเฝ้าทรัพย์สินหรือพักอาศัยบนอาคารสูง จะมีการลำเลียงอาหารและน้ำดื่มส่งถึงทุกหลังคาเรือนภายในวันนี้
ด้านการบริหารจัดการน้ำ กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายกรมชลประทานเร่งระบายน้ำผ่านคลองอู่ตะเภา คลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) รวมถึงคลองสาขาทุกเส้น โดยเปิดบานประตูระบายน้ำทุกจุด แม้คลองหลักจะรองรับน้ำได้กว่า 12,000–13,000 ลบ.ม./วินาที แต่ปริมาณฝนหนักในทุกอำเภอ โดยเฉพาะ อ.สะเดา ทำให้มวลน้ำหลากเข้าสู่พื้นที่อ่างรูปตัวแอ่งอย่างเมืองหาดใหญ่จนเอ่อสูง
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกหนักเพิ่ม คาดว่าน้ำท่วมจะเริ่มลดระดับภายใน 3 วัน เนื่องจากระบบระบายน้ำกำลังทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
