พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้คำสั่งของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ขับเคลื่อนปฏิบัติการ “กวาดล้างทำลายเครือข่ายบัญชีม้าและคอกม้า” เพื่อยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ปฏิบัติการในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 และจังหวัดสระบุรีตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการ และตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ได้สนธิกำลังปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายบัญชีม้าในพื้นที่ โดยผลจากการประชุม “War Room” และการแลกเปลี่ยนเบาะแสอย่างใกล้ชิดระหว่างตำรวจและธนาคารในจังหวัดสระบุรี ทำให้สามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วการจับกุมล็อตแรกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก
– กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชี (2 ราย): ถูกแจ้งข้อหาฐาน เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ
– กลุ่มจัดหาบัญชี/ชักชวน (4 ราย) ถูกแจ้งข้อหาฐาน ชักชวน/ยินยอมให้ผู้อื่นเปิดหรือใช้บัญชีเงินฝากและเลขหมายโทรศัพท์ เพื่อใช้กระทำความผิด ตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.ก.ฉบับเดียวกัน

ของกลางที่ตรวจยึดได้เบื้องต้น ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม, บัตร ATM 7 ใบ, รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหากลุ่มจัดหาบัญชี พบหลักฐานการว่าจ้างเปิดบัญชีรวม 20 บัญชี และเชื่อมโยงกับบัญชีม้าในระบบ TPO 3 ราย ซึ่งมีประวัติถูกอายัดจากคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหลายเคส เช่น หลอกประมูลนาฬิกา และ หลอกจองที่พัก
ต่อมา เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลบุกเข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.ศรีสุดา หรือกล้วย (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างกลุ่มจัดหาบัญชี พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่มจากการสะกดรอยติดตาม เจ้าหน้าที่พบว่า น.ส.ศรีสุดา พร้อมพวกรวม 3 คน ได้แก่ นายสมพงษ์ หรือเป้ และ นายมานะ หรือนะ ได้เดินทางหลบหนีไปยังจังหวัดสระแก้ว ตำรวจจึงประสาน กก.ตชด.12 ร่วมกันติดตามจับกุมตัวได้ทั้งหมด
พร้อมยึดของกลางสำคัญจำนวนมากที่ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ของเครือข่าย พบของกลาง คือ สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม บัตร ATM 66 ใบ โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ 18 เครื่อง (พร้อมส่งมอบ) ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก…” ตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ
จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า นายมานะ เคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.หนองแค จังหวัดสระบุรีมาก่อนโดยการปฏิบัติการครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 9 ราย และยึดบัญชีม้าและโทรศัพท์ที่ใช้คู่กับบัญชีม้าได้จำนวนมาก ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการรับโอนเงินจากการกระทำความผิดและเตรียมส่งมอบให้กลุ่มอาชญากรในประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดในเครือข่ายนี้ต่อไป

