ศาลยกฟ้อง​ “ชูวิทย์” ชี้วิจารณ์ “กัญชาเสรี” เป็นสิทธิสุจริต ไม่เข้าข่ายหมิ่น ภท.

209

ศาลอาญา​ยกฟ้อง​ ชี้ “ชูวิทย์” ใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชน แม้ถ้อยคำรุนแรงแต่เป็นการวิจารณ์นโยบายสาธารณะ พรรคภูมิใจไทยในฐานะบุคคลสาธารณะต้องยอมรับคำติ วิจารณ์นโยบายกัญชาเสรีไม่ใช่ความผิดหมิ่นประมาท พิพากษายกฟ้องคดี ภท. ฟ้องเหตุโจมตีช่วงเลือกตั้ง 2566

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง

จากกรณีเมื่อวันที่ 17มีนาคม 2566 ได้มีพระบรมราชโองการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม2566 คณะกรรมการเลือกตั้งได้ออกประกาศเรื่อง กําหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันรับสมัครเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และสถานที่ที่พรรค การเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ในการนี้ โจทก์ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จํานวน 387 คน และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ จํานวน 98 คน เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2566 จําเลยได้บังอาจกระทําความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกรรมต่างวาระ คือ จำเลยบังอาจ จัดให้ ให้ เสนอให้สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคํานวณเป็นเงินให้แก่ผู้ใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น งดเว้นการลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้สมัคร หรือ การชักชวนให้ไปลงคะแนน

โดยขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล หน.พรรคภูมใจไทย กำลังปราศรัยให้แก่ผู้สมัครในสังกัดพรรคของโจทก์บนเวทีปราศรัยชั่วคราว ณ ลานกีฬาแฟลตดินแดง สน.ดินแดง ซึ่งในขณะนั้นมีประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยมากกว่า2,000 คน จําเลยได้บังอาจตั้งโต๊ะแถลงข่าวโดยใช้เครื่องขยายเสียงขนาเล็ก(โทรโข่ง)และแจกเสื้อให้แก่ประชาชนได้จูงใจ ให้ประชาชนทั่วไปงดเว้นการลงคะแนนในเลือก สส. สังกัดของโจทก์ โจมตีข้อความเท็จอันเป็น ด้วยโทรโข่ง อาทิ “เฮ้ย! ไม่จริง ไม่จริงอย่าไปฟัง ไอ้หนูโกหก อย่าไปฟัง ไอ้นโยบายบ้ากัญชา” และมีป้ายไวนิล ข้อความอันเป็นเท็จ อาทิกัญชาค่ายเยาวชน, ภูมิใจ พรรคบ้ากัญชา ไม่เลือกพรรคบ้ากัญชา, กัญชาคือ ยาเสพติด ยกเลิกกัญชา, เยาวชนติดกัญชาเพราะมึง และ เลือกพรรคผิดติดกัญชา เป็นต้น การกระทําของจำเลยผิดต่อกฎหมายโดยชัดแจ้ง โดยประการที่น่าจะทําให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย คดีนี้ศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูลให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา ส่วนจำเลยให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองชื่อดังพร้อมทนายความ

วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 808 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองชือดัง พร้อมทนาย ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาในคดีดำ อ.1225/2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หน.พรรค ได้มอบอำนาจให้นายศุภชัย ใจสมุทร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองชือดัง เป็นจำลยในความผิดฐาน “หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ”

ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะมีผลต่อประชาชนและนำนโยบายของกัญชาหาเสียงข้อเท็จจริงจากการนำสืบของโจทก์และจำเลยเมื่อปี 2565 มีการประกาศ ให้กัญชาและกัญชงไม่ผิดกฎหมายและนำไปใช้เสพ โดยทั่วไป โดยไม่มีการควบคุมทางกฎหมายอีกรวมถึงการที่จำเลยกล่าวว่าโจทก์มีความเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการเลี้ยงใบกันชง จึงให้ความสนใจกับธุรกิจกัญชาและกัญชงมากกว่าประโยชน์ทางการแพทย์

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองชือดัง

อย่างไรก็ตามจำเลยเป็นประชาชนที่ให้ความสนใจเรื่องปัญหาของเยาวชนไม่เห็นด้วยกับการปราศรัยนโยบายกัญชาเสรีว่าเป็นสิ่งที่หลอกลวงประชาชน

มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงได้ต่อต้านไม่ให้เลือกพรรคที่สนับสนุนนโยบายกัญชาเสรี ดังนั้นจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต แม้ถ้อยคำโจมตีนโยบายของโจทก์จะร้ายแรงอยู่บ้างแต่ว่าโจทก์เป็นบุคคลสาธารณะ ต้องยอมรับคำติชม ดังนั้นจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษายกฟ้อง