รมว.ยุติธรรมบุกเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จี้สอบเจ้าหน้าที่เอื้อผู้ต้องขังจีน–เผยหญิงชาวจีนเดินขึ้นไปในห้อง ผบ.เรือนจำ ชั้น 2 ก่อนลงบันไดไปยังห้องลับชั้น 1 เลือกก่อเหตุเฉพาะวันอาทิตย์ เลี่ยงสายตาญาติผู้ต้องขังคนอื่น
พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหารกรมราชทัณฑ์และดีเอสไอ หลังพบพฤติการณ์เจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังชาวจีน รวมถึงพบหญิงชาวจีน 2 คนเข้าไปในห้องรับรอง ซึ่งถูกดัดแปลงใช้ผิดวัตถุประสงค์ เตรียมตั้งเป็นคดีพิเศษ
วันนี้ (22 พฤศจิกายน 2568) พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจโท อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางเข้าไปด้านในเรือนจำแล้วเช่นกัน เพื่อตวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เอื้อประโยชน์กลุ่มผู้ต้องขังชาวจีน
พล.ต.ท. รุทธพล กล่าวว่า ตัวเองและผู้บริหารกระทรวงฯ ปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ในพื้นที่จริงเพื่อติดตามรายละเอียด เบื้องต้นจะให้ทางดีเอสไอตั้งเป็นคดีพิเศษ
พล.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า ตัวเองมารับราชการเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 จากนั้นอีก 1 เดือนต่อมาได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการ ปฏิบัติที่ไม่ชอบของเจ้าหน้าที่ในเรือนจำนี้โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหารเรือนจำ จากนั้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ทางปลัดกระทรวงยุติธรรมได้สั่งกำชับว่าจะต้องได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อน เพราะข้อมูลที่ได้มาช่วงแรกเป็นเพียงการข่าว จึงใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ในการเก็บรวบรวมสืบสวนเรื่องนี้ ซึ่งได้ข้อมูลพอสมควรจนแน่ชัดแล้วว่าเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระทำการอันมิชอบด้วยระเบียบและกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ จากนั้นได้วางแผนเข้าไปตรวจสอบในวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่ไว้ใจได้เข้ามา จากข้อมูลบางส่วนที่พบว่ามีหญิงชาวจีนเข้ามาที่เรือนจำแห่งนี้ มีลักษณะคล้ายขายบริการทางเพศ เมื่อเข้าโอเปอเรชั่นพบหญิงชาวจีนสองคน อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งขณะนั้นเองหญิงชาวจีนอยู่ในห้องสองต่อสองกับผู้ต้องขังชาวจีน ส่วนอีกคนอยู่ระหว่างรอด้านบน
พ.ต.ท.ประวุธ บอกว่า ได้เรียกหญิงชาวจีนมาสอบสวนเขาปฏิเสธว่าไม่ได้มาขายบริการ ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปพบว่าการแต่งกายเรียบร้อยหมดแล้ว เพราะมีการปิดล็อกประตูถึง 2 ชั้น แต่พบร่องรอยคล้ายคราบอสุจิ จึงเก็บข้อมูลในส่วนนี้ เพื่อส่งต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยภายในห้องมีขนาด ประมาณ 10 ตารางเมตร เป็นห้องรับรอง มีโต๊ะ มีโซฟา มีตู้เย็น พบกล่องถุงยางและทิชชู่ที่ตกอยู่ในพื้นที่ ได้เก็บพยานหลักฐานเพื่อส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจสอบว่ามีคราบอสุจิหรือไม่ ทั้งนี้สารคัดหลังมีพอสมควรส่วนใหญ่จะติดอยู่ที่กระดาษทิชชูมากกว่า จะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูอีกครั้งแต่เท่าที่เห็นด้วยเปล่าพบเพียง 1-2 จุดเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วห้องนี้เป็นห้องที่รับรองผู้บังคับบัญชาที่เข้ามา จะไม่เคยให้ผู้ต้องขังเข้ามาใช้ประโยชน์ตรงนี้ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นโครงสร้างของอาคารอยู่แล้วไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ แต่ห้องที่กล่าวถึงมีการปรับปรุงเป็นห้องรับรองให้กับผู้บังคับบัญชาเวลาเข้ามาตรวจราชการ แต่เขาก็ดัดแปลงเป็นห้องที่อยู่ให้ด้วยกัน อย่างไรก็ตามในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายนนี้จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ห้องดังกล่าว
เบื้องต้นทั้ง 2 คนปฏิเสธว่าไม่ได้เข้ามาค้าบริการแต่จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะขณะคนที่เขาจะมาพบยังไม่รู้จักเลย จึงเชื่อมั่นว่าสองคนนี้น่าจะมามีส่วน ค้าบริการ ซึ่งพบมีถุงยางอนามัยและมีกางเกงในติดตัวมา จากนั้นได้ทำการตรวจค้นในเรือนจำแห่งนี้พบว่ามีการกระทำที่ผิดระเบียบ ผิดกฎหมายอยู่ และพบสิ่งของต้องห้ามหลายอย่าง ทั้งสิ่งของที่ไม่ได้รับอนุญาตด้วย โดยของต้องห้ามที่เป็นสารเสพติดนั้นจากการตรวจสอบพบว่ามีเพียงยาเส้น ส่วนจะมีมากกว่านั้นหรือไม่ต้องขอระยะเวลาในการตรวจสอบเพิ่มเติม และยังพบสุราอีกด้วย
โดยหญิงชาวจีนที่เรียกมาให้บริการจะเดินทางเข้าบริเวณประตูด้านหน้าที่เจ้าหน้าที่ใช้ปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำที่มีส่วนรู้เห็นพา และได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาพาเข้าไป โดยผู้หญิงชาวจีนจะขึ้นไปที่ห้องผู้บังคับบัญชาก่อน ซึ่งอยู่บริเวณชั้นสอง ก่อนที่จะเดินทางเชื่อมของห้องผู้บังคับบัญชาลงไปยังห้องเกิดเหตุ
เมื่อถามว่าใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ในการซื้อเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ ระบุว่า เรื่องนี้ยังไม่แน่ใจ ขอตรวจสอบก่อน ส่วนเส้นเงินได้ประสานไปกับกรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อวานนี้ก็จะมาร่วมตรวจสอบในเรื่องนี้ ส่วนการตรวจสอบเรื่องเส้นเงินนั้นจะต้องใช้อำนาจทางกฎหมาย จากนี้จะรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานที่ได้ทำการสอบสวนในเบื้องต้น จากนั้นได้ย้ายบุคคลที่สืบสวนมาที่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ เพื่อให้คณะทำงานตรวจสอบได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.ท. ประวุธ กล่าวย้ำว่า การที่ตัวเองเข้ามาเป็นหัวหน้าหน่วยงานนี้มุ่งหวังที่จะเคลียร์บ้านผมให้สะอาด สิ่งใดไม่ถูกต้องจะจัดการด้วยตนเอง ในการจัดการก็รายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบทุกขั้นตอนถึงรายละเอียดในการเข้าตรวจค้น ต้องบอกว่าข้าราชการส่วนใหญ่ของกรมราชทัณฑ์ยังเป็นคนที่มีระเบียบวินัยรักษากฎหมายรักษาระเบียบอยู่เป็นเพียงบางส่วนที่อาจจะมีพฤติกรรมแบบนี้ซึ่งจะต้องเคลียร์บ้านเราให้สะอาด สิ่งที่ไม่ได้มานำเสนอกับสื่อมวลชนในวันแรกๆ เพื่อต้องการจัดการปัญหาบ้านตัวเอฃในเมื่อสื่อมวลชนได้มีการเสนอข่าวไปก็ต้องออกมาชี้แจงถึงรายละเอียดว่า กรมราชทัณฑ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ให้เป็นไปตามมาตรฐานกฎหมายและระเบียบที่เราใช้อยู่
พ.ต.ท.ประวุธ ได้เล่าย้อนไปในวันเกิดเหตุว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่มแรกที่เข้ามาเป็นญาติผู้ต้องขัง ซึ่งปกติวันอาทิตย์ไม่ได้เปิดโอกาสให้มีการเยี่ยมญาติอยู่แล้ว แต่ก็มีญาติของผู้ต้องขังชาวจีนได้เข้ามาเยี่ยม หลังจากเยี่ยมเสร็จแล้ว จะมีผู้หญิงซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่มาค้าประเวณีได้เข้ามา แต่อย่างที่บอกการที่ยืนยันแบบนั้นได้ จะต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนในเมื่อทั้งสองคนปฏิเสธเราก็ต้องหาพยานหลักฐานที่จะต้องรวบรวมมายืนยันต่อไป
เมื่อถามว่ากลุ่มผู้ต้องขังเคยมีพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วใช่หรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่านานเท่าไหร่ผมไม่รู้ แต่ตั้งแต่ทำการสืบสวนมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนเชื่อว่ามี โดยเชื่อว่ามีคนจัดการให้ ในวันนั้นมีผู้บัญชาการเรือนจำอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ถามอีกว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีระดับใดบ้าง มีผู้บัญชาการเรือนจำรวมอยู่ด้วยหรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า อยู่ด้วย อยู่ในเหตุการณ์ด้วยด้วย จากการสืบสวนพบว่าจะเข้ามาทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นระยะเวลาพอสมควร จริงๆ แล้วมีกลุ่มผู้ต้องขังชาวจีนหลายคนจะต้องขอเวลาตรวจสอบต่อไป ส่วนการดำเนินคดีกับทั้ง 2 รายมีทั้งความผิดในประเทศและต่างประเทศ ส่วนตัวผู้หญิงไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอก่อน ทั้งนี้คาดว่าน่าจะเดินทางกลับประเทศไปแล้ว และหากตรวจสอบพบว่ามีมูลกระทำความผิดจะส่งข้อมูลให้ตำรวจในการขึ้นแบล็คลิสต์ต่อไป
ถามอีกว่านอกจากผู้ต้องขังแล้วยังมีเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่ ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า ไม่มี
พ.ต.ท. ประวุธ บอกว่า ทางหน่วยได้เก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดหมดแล้วต้องยอมรับว่ามีการลบไป แต่ได้มีการกู้มาบางส่วนจะต้องมาดูไทม์ไลน์นั้นต่อไป ภาพที่กู้มาได้เป็นภาพที่หญิงสาวได้เข้ามาแต่จะเข้ามาทำอะไรนั้นจะต้องสอบสวนต่อไป
ส่วนจะมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่าจะมีคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการมากกว่า เป็นคนคอยรับส่งต่างๆ ทั้งนี้ได้เรียกมาสอบหมดแล้ว โดยได้สอบปากคำไปแล้วกว่า 20 คน ตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการเรือนจำไปจนถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่ลูกน้องบอกว่ารับคำสั่งจากผู้บัญชาการเรือนจำ
ทั้งนี้ได้มีคำสั่งให้ย้ายผู้ต้องขังออกจากเรือนจำไปแล้ว 3-4 คน หากพบว่ามีผู้ที่มีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมก็จะมีการย้ายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามได้แจ้งข้อมูลเบื้องต้นไปกับทางดีเอสไอไปแล้ว คงเป็นเรื่องของความร่วมมือในการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป
ถามว่ามีการเข้าไปตรวจสอบที่แดน 8 มาบ้างหรือไม่ ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์บอกว่า ส่วนตัวยังไม่ได้เข้าไปแต่ได้ให้ทางรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์มารักษาการเพื่อเคลียร์พื้นที่ในทุกแดนต่อไป
“ตั้งแต่ที่ตนมารับตำแหน่งและได้รับเรื่องร้องเรียนได้มีการตรวจสอบหาข้อมูลของผู้บัญชาการเรือนจำก็พบว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวกับการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย ก็เลยทำการสืบสวน แต่ก่อนหน้านี้จะมีพฤติการณ์อย่างไรจะต้องสืบสวนย้อนหลังอีกครั้ง ทั้งนี้ได้เข้ามารับตำแหน่งที่แห่งนี้ได้ประมาณ 1 ปี” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
ถามต่อว่าจะต้องตรวจสอบย้อนหลังกลับไปถึงผู้บัญชาการเรือนจำคนเก่าๆ ด้วยหรือไม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า ขณะที่ตัวเองดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เท่าที่ดูรายชื่อผู้บัญชาการเรือนจำที่ผ่านมามีความแข็งขัน มีความเคร่งครัดในเรื่องของกฎระเบียบ ที่ผ่านมาเป็นคนดีและคนเก่งมาโดยตลอด และเป็นที่นับหน้าถือตาของข้าราชการในกรมราชทัณฑ์ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของรายบุคคลไป
ทั้งนี้ข้อมูลของสื่อมวลชนส่วนใหญ่จะมีมูล แต่อย่างไรก็ตามจะต้องหาพยานหลักฐาน ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาพยานหลักฐานในหลายเรื่อง
