วันนี้ (21 พ.ย.) ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการไต่สวนคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณาแล้ว
ศาลอาญา มีคำสั่งว่า พิเคราะห์ตามทางไต่สวนประกอบกับรายงานประเมินความเสี่ยงของศาลอาญาซึ่งระบุว่าความเสี่ยงจะหลบหนีหรือก่ออันตรายประการอื่นอยู่ในระดับความเสี่ยงต่ำ เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าคดีนี้ มีการกระทำความผิดรวม 67 กรรม จำเลยที่ 3, ที่ 5-8 และจำเลยที่ 23 ถูกฟ้องว่าร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องข้อ 2.1 เพียงกรรมเดียว
จำเลยที่ 3, ที่ 5-8 และจำเลยที่ 23 ประกอบ อาชีพวิศวกร มีภูมิลำเนาที่อยู่เป็นหลักแหล่งแน่นอน ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี อีกทั้งยังให้การปฏิเสธ และถูกคุมขังโดยตลอดมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และได้ความตามทางไต่สวนว่าจำเลยที่ 3, ที่ 5-8 และที่ 23 ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง และมาพบพนักงานสอบสวนตามนัด พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนให้พนักงานอัยการโจทก์มีการนัดตรวจ พยานหลักฐานมาบ้างแล้ว ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3, ที่ 5-8 และที่ 23 เป็นผู้มีอิทธิพลที่สามารถไป ข่มขู่หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ ดังนั้นแม้ศาลนี้และศาลอุทธรณ์จะเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว แต่เมื่อพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ จึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้ ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 3, ที่ 5-8 และที่ 23 ในระหว่างพิจารณา ตีราคาประกันคนละ 1,500,000 บาท และให้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กับห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
