กรุงเทพฯ, วันที่ 21 พ.ย. – นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยสถานการณ์แรงงานในไตรมาส 3/2568 ว่ามีจำนวนประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป 59.49 ล้านคน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 40.20 ล้านคน หรือคิดเป็น 67% ที่เหลืออยู่นอกกำลังแรงงานประมาณ 19.29 ล้านคน หรือ 32.4% จากกำลังแรงงานรวม 40.20 ล้านคน มีผู้ว่างงาน จำนวน 3.1 แสนคน ผู้รอฤดูกาล จำนวน 4 หมื่นคน และเป็นผู้มีงานทำ จำนวน 39.85 ล้านคน โดยแบ่งเป็นผู้มีงานทำในภาคเกษตรกรรม 11.86 ล้านคน ซึ่งลดลงร้อยละ 2.9 และผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรกรรม 27.99 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.6 แสนคน หรือ 0.6 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะกลุ่มกิจกรรมด้านบริการอื่น ๆ ที่มีการขยายตัวในเกณฑ์สูงถึง 11.2 % กลุ่มการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้าที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 4.9 %
อีกกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มการผลิตที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันมีหลายอุตสาหกรรมที่มีผู้มีงานทำลดลง ด้วยปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมมีภาวะชะลอตัว ทำให้บริษัทลดการจ้างงาน มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ ๆที่ลดความต้องการแรงงานเพื่อควบคุมต้นทุน รวมทั้งการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ของภาคเอกชนที่ลดลง ซึ่งส่งผลต่อความต้องการแรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มการก่อสร้าง และ กลุ่มกิจกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มที่มีคนทำงานลดลงเป็นจำนวนมาก
นายเอกพงษ์กล่าวว่า โดยภาพรวมประเทศไทยยังคงมีความมั่นคงในด้านกำลังแรงงาน เพราะมีอัตราการมีงานทำอยู่ในระดับสูง และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ มีการเคลื่อนย้ายของแรงงานภาคเกษตรกรรมไปสู่ภาคบริการและโลจิสติกส์ ซึ่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังคงเผชิญความท้าทาย แต่ก็ยังมีหลายภาคส่วนที่เติบโตและฟื้นตัวได้ในช่วงนี้ ซึ่งอาจต้องมีการพัฒนาด้านการฝึกทักษะและการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว ข้อมูลสถานการณ์แรงงานสำคัญอย่างยิ่งต่อการติดตาม และประเมินสถานการณ์ตลาดแรงงานของประเทศ ภาครัฐใช้กำหนดนโยบาย วางแผนพัฒนากำลังคนและกำลังแรงงาน เพื่อให้ประเทศมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
