วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2568) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยกรณีอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บิ๊กโจ๊ก” ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ หลังถูกดำเนินคดีซ้ำเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ โดยบิ๊กโจ๊กอ้างว่าตนถูกเลือกปฏิบัติ
รอง ผบก.สอท. ระบุว่า ขณะนี้ทางกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ประสานงานกับผู้บังคับการกองบังคับการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว และบางเรื่องอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตาม ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังฝ่ายกฎหมายของกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์เพื่อพิจารณา โดยผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ได้กำชับให้ตรวจสอบข้อมูลทุกบรรทัดอย่างละเอียด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างเที่ยงธรรมและรวดเร็ว ฝ่ายกฎหมายจะตรวจสอบเอกสารทุกส่วนว่าอะไรถูกต้องซ้ำหรือไม่ ข้อกฎหมายใดเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุด
สำหรับกรณีที่มีข่าวลือว่ามี หนอนบ่อนไส้ อยู่ในหน่วยงานตำรวจไซเบอร์ รองผู้บังคับการตำรวจติดสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดครั้ง ส่วนเรื่องของระยะเวลาการดำเนินการตามหนังสือร้องเรียนของอดีตรองผบ.ตร.นั้น
รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดมีข้อกฎหมายรองรับ ซึ่งระบุระยะเวลาในการตรวจสอบกรณีมีผู้ร้องเรียน ภายใน 7–15 วัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และชี้ว่า การสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ต้องยึดข้อเท็จจริงทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีการบิดเบือนหรือเพิ่มความเห็นส่วนตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าการดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส และฝ่ายกฎหมายของกองบัญชาการเป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน
นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยังกล่าวถึงความสำคัญของการป้องกันเว็บพนันออนไลน์ว่า เรื่องนี้ถือเป็นวาระสำคัญระดับชาติ โดยตำรวจทุกระดับ ตั้งแต่นายสิบไปจนถึงพลตำรวจเอกต้องทำงานร่วมกัน แต่ในมุมของตน เรื่องนี้ยังเป็นวาระระดับนานาชาติ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศอนุญาตให้เล่นการพนันได้ แต่ประเทศไทยไม่สามารถอนุญาตให้เล่นการพนันได้ เราได้รับรายงานการเปิดเว็บพนันจำนวนมากหลายหมื่น URL ต่อเดือน แม้ตำรวจไซเบอร์จะปิดการเข้าถึงได้ แต่การปิดจริง ๆ ต้องอาศัยความร่วมมือกับแพลตฟอร์มและเครือข่ายออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงสิ่งไม่ดีได้” พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์กล่าว พร้อมเน้นว่า นอกจากเป็นหน้าที่หลักของตำรวจแล้ว ประชาชนและแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ต้องร่วมมือกัน
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนและการตรวจสอบคดีซ้ำ ทางกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์จะรายงานต่อสื่อมวลชนอย่างชัดเจนเพื่อความโปร่งใส

