วันที่ 19 พ.ย.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงการบุกทลายแก็งค์คอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ในพื้นที่ BGF อย่างหนัก ทั้งที่ KK Park ตั้งแต่ 3 อาทิตย์ก่อน และที่ชเว่โก๊กโก่ ในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา จนทำให้คนที่ทำงานใน 2 พื้นที่ แตกกระเจิง และหลายคนถูกควบคุมตัวไว้ได้
“เราคาดการณ์กันได้ครับ ว่าคงมีคนต่างชาติ ซึ่งน่าจะรวมถึงคนไทยด้วย จำนวนหลักพันที่หลุดออกมาจากการปฏิบัติการครั้งนี้ของทหารเมียนมา กับ BGF ซึ่งตามคาดครับ ต้องมีคนทะลักเข้ามาในไทยแน่นอน วันนี้เจอ 2 จุด ที่บ้านแม่โกนเกน และบ้านแม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 54 คน จาก 13 ประเทศ (15 คน จากจีน และ 39 คน จาก 12 ประเทศ)”
นายกัณวีร์ ระบุว่า ก็อยากเห็นตามที่ตนพูดไปเมื่อวานว่า อยากเห็นกลไกการจัดการของไทย ซึ่งไม่ได้พูดแค่กลไกส่งต่อระดับชาติ หรือ National Referral Mechanism (NRM) ที่คัดแยกผู้ที่เป็นเหยื่อออกจากผู้ที่ไม่ใช่เหยื่อของการค้ามนุษย์ แต่ต้องการให้ไทยโชว์ฝีมือการติดตามขบวนการนำพา ที่มีคนไทยไปเกี่ยวข้องที่ให้การช่วยเหลือส่งคนเหล่านี้ออกไป และทำให้ประเทศไทยถูกมองว่าเป็น “ประเทศแจกจ่ายมนุษย์“ (Human Distributing Country)
“อย่ากลัวจะเจอตอ อย่างนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ข้าราชการทุกระดับ พ่อค้า นักธุรกิจหรือผู้มีอิทธิพลมาเฟียต่าง ๆ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ตัดรากถอนโคนมันไปเสียที”
นายกัณวีร์ ระบุว่า แล้วก็อย่าลืมที่ต้องประสานงานกับประเทศต้นทางโดยเร็ว และทำงานเชิงรุกให้ได้ ตอนนี้มีเพิ่มมาอีก 13 ประเทศ อย่ารอจนเนิ่นนานเหมือนก่อน เพราะถ้าทิ้งให้อยู่ในไทยไปนานๆ จะต้องเอาภาษีเราไปดูแล และพวกเขาก็อยากกลับบ้านไปเจอครอบครัว อย่าทำงานแบบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง คนเหล่านี้มีสถานทูตอยู่แล้ว โทรไปบอกก่อนแล้วส่งหนังสือเป็นทางการไปยังสถานทูตต่าง ๆ
“หากต้องการให้ผมช่วยก็แจ้งมาได้นะครับ อยากเห็นครับแผนการแบบครอบคลุมกับการปราบปรามอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ ไม่ใช่แค่แผนการรองรับผู้ที่หนีแตกกระเจิงนะครับ แต่แผนการปราบปรามและป้องปรามอาชญากรพวกนี้ด้วยครับ” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ
