ทบ.โต้ ข้อกล่าวหาเขมร อ้างทหารพรานไทยละเมิดสาว กพช. ไม่จริง ยันเป็นไอโอ ของ “สแกมโบเดีย” หวังเบี่ยงประเด็นทุ่นระเบิด-สแกมเมอร์

442

กองทัพบก, วันที่ 18 พ.ย. – ตามที่มีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชน รวมถึงแถลงการณ์จากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม และองค์กรสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทหารพรานไทย จำนวน 7 นาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกาย ปล้นทรัพย์ และล่วงละเมิดทางเพศแรงงานชาวกัมพูชา ณ บริเวณชายแดนจังหวัดพระตะบอง นั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่าเป็น “ข่าวปลอม” โดยฝ่ายไทยได้สั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ติดกับ จ.พระตะบอง ได้แก่ กองกำลังบูรพา (จ.สระแก้ว) และประสานงานร่วมกับ กองทัพเรือ (จ.จันทบุรี และ จ.ตราด) ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนทันทีที่ปรากฎข่าว โดยสอบสวนทหารพรานและชุดปฏิบัติการลาดตระเวนทุกชุดที่ปฏิบัติหน้าที่ในคืนวันที่ 15 พ.ย. (ตามเวลาที่ถูกกล่าวหา) ผลปรากฏว่าไม่พบเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าว และไม่มีการตรวจพบหรือจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำนวน 13 คน ในวันและเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้กองทัพบกมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อรูปแบบการนำเสนอข่าวและท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งส่อเจตนาถึง “กระบวนการปฏิบัติการข่าวสาร” หรือไอโอ ที่มีการเตรียมการและประสานงานกันอย่างผิดสังเกต ทั้งในด้านความสอดประสานของเวลา โดยมีการออกแถลงการณ์โจมตีฝ่ายไทยอย่างพร้อมเพรียงจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงแรงงานฯ กระทรวงวัฒนธรรมฯ สหภาพแรงงาน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ภายในระยะเวลาเพียง 1–2 วัน

พลตรีวินธัย กล่าวว่า นอกจากนี้ยังปรากฏการผลิตซ้ำชุดข้อมูลเดิม โดยทุกแถลงการณ์ใช้ข้อมูลเดียวกัน ซึ่ง ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ข้อเท็จจริงร่วมกัน แต่กลับด่วนสรุปกล่าวโทษไทย และอ้างกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อมุ่งทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก ที่สำคัญฝ่ายกัมพูชาใช้วิธีตัดตอนพยานหลักฐาน โดยอ้างว่าเหยื่อถูกปล่อยตัวกลับประเทศแล้วจึงค่อยมาแจ้งเหตุ ทำให้ฝ่ายไทยไม่สามารถตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหรือพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ในทันที ซึ่งผิดวิสัยการปฏิบัติงานชายแดนปกติ ที่ต้องมีการประสานข้อมูลกันอย่างใกล้ชิด

กองทัพบกขอยืนยันว่า ทหารพรานไทยยึดถือระเบียบวินัยและเคารพหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด  การกล่าวหาทหารไทยในเรื่อง “ข่มขืน รีดไถ ทุบตี” อาจเป็นเพียงการให้ข้อมูลเท็จของบุคคลที่ทำทีเป็นผู้เสียหาย ที่มีลักษณะมีกลุ่มกระบวนการคอยใส่ร้ายป้ายสีคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง มีการแบ่งหน้าที่กันทำ   เป็นการสมคบคิดกันจัดฉากใส่ร้ายทหารไทย ซึ่งอาจเพียงเพื่อต้องการจะเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจเรื่อง ทุ่นระเบิด และ เรื่อง Cyber Scam ที่กำลังถูกจับจ้องจากนานาชาติและสังคมโลก  

สำหรับกรณีที่รองโฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาระบุว่า คำชี้แจงของไทยคือการบิดเบือนนั้น โฆษก ทบ. กล่าวว่า “ความจริงต้องพิสูจน์ด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่การระดมออกแถลงการณ์โจมตีฝ่ายเดียว” การด่วนสรุปโดยไม่ผ่านกลไกทวิภาคีใด ๆ สะท้อนให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ฝ่ายไทยคงจะไม่ยอมรับการกระทำอันใดที่ยังมีลักษณะเข้าข่ายถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในลักษณะเช่นนี้  และขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้มีความซื่อตรง แสดงความจริงใจต่อการแก้ปัญหา และยุติการใช้กลไกของรัฐมาสร้าง และสนับสนุนการสร้างเรื่องราวที่เป็นเท็จ เพื่อใช้หลอกลวงนานาชาติและสังคมโลก