“อนุทิน” ปลื้ม รองประธานสภา-ทูตเกาหลี พา 27 นักธุรกิจ-นักลงทุน เข้าหารือ ยัน 2 ประเทศมีศักยภาพขยายความร่วมมืออีกมาก ยินดีเกาหลีจะเปิดนิคมแห่งแรกในไทย รัฐบาลกิมจิพร้อมช่วยดูแลแรงงานไทย-ผ่อนปรนวีซ่า-เกณฑ์ทำงาน

465

ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 18 พฤศจิกายน – คณะนักลงทุนและนักธุรกิจสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เข้าเยี่ยมคารวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสการเข้าร่วมโครงการนำนักธุรกิจและนักลงทุนเกาหลีใต้มาเยือนไทยของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าร่วม

สำหรับคณะฝ่ายเกาหลีใต้ จำนวน 27 คน ประกอบด้วย นายอี ฮัก-ยอง (Mr. Lee Hack-Young) รองประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลี อัครราชทูตสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย นักลงทุนและนักธุรกิจเกาหลีใต้จากบริษัทชั้นนำในหลายภาคส่วนของเกาหลีใต้ อาทิ บริษัทวิศวกรรมและการก่อสร้าง Daewoo E&C บริษัทสื่อมวลชน Herald Media Group บริษัทอุตสาหกรรมเหล็ก POSCO บริษัทพลังงานและเคมีภัณฑ์ครบวงจร SK Innovation บริษัทอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า LG Electronics และบริษัทโลจิสติกส์ วิศวกรรม และโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร KS Group

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการหารือครั้งนี้ว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและขอบคุณคณะนักลงทุนและนักธุรกิจเกาหลีใต้ที่ให้ความสนใจประเทศไทย ทั้งกลุ่มที่ลงทุนในไทยอยู่แล้ว และกลุ่มที่สนใจเริ่มค้าขายและลงทุนในไทย โดยผู้นำไทยเพิ่งเดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ไทย–เกาหลีใต้มีศักยภาพที่จะขยายความร่วมมือกันได้อีกมาก โดยเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายสำคัญที่ไทยต้องการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะในสาขาที่เกาหลีใต้มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานสะอาด เศรษฐกิจสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ดิจิทัลและ AI ยานยนต์ไฟฟ้า และเซมิคอนดักเตอร์

นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำจุดแข็งของไทย ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ใจกลางอาเซียน ความสามารถการแข่งขันระดับโลกที่ขยับขึ้นสู่อันดับที่ 25 จาก 67 เขตเศรษฐกิจ และความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหาร และการท่องเที่ยว โดยการหารือวันนี้มุ่งสร้างความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจเกาหลีใต้ พร้อมย้ำว่าไทยเป็นจุดหมายการลงทุนที่พร้อมเปิดรับนักลงทุนและนักธุรกิจเกาหลีใต้

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นายอนุทินแสดงความยินดีที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจของทั้งสองประเทศสนใจความร่วมมือในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกาหลีใต้แห่งแรกในไทย บริเวณเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยทั้งสองฝ่ายจะเร่งลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโอกาสแรก

ด้านรองประธานรัฐสภาเกาหลีใต้ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้คณะนักธุรกิจและนักลงทุนเกาหลีใต้เข้าเยี่ยมคารวะ พร้อมแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และขอบคุณไทยที่เคยส่งทหารเข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี โดยย้ำว่าไทยเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของเกาหลีใต้ ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดมายาวนานและมีความร่วมมือเพิ่มขึ้นในหลายสาขา โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลไทยช่วยดูแลนักธุรกิจ–นักลงทุนและนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ในไทย ส่วนรัฐบาลเกาหลีใต้พร้อมดูแลแรงงานไทยในเกาหลีใต้ รวมถึงการผ่อนปรนหลักเกณฑ์การขอวีซ่าทำงานและการขยายกฎเกณฑ์การทำงานในเกาหลีใต้

ขณะที่ผู้แทนอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมก่อสร้าง ขอบคุณรัฐบาลไทยและเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สำหรับการจัดงาน IGNITE Thailand-Korea Business Forum Bangkok 2025 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน และเชื่อว่าจะเกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมในเร็ววัน เกาหลีใต้มีโมเดล Smart City ที่สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของไทย ส่วนผู้แทนอุตสาหกรรมเหล็ก ชื่นชมโครงสร้างพื้นฐานและศักยภาพบุคลากรของไทย พร้อมเดินหน้าความร่วมมือด้านเหล็ก

ผู้แทนอุตสาหกรรมการผลิต ขอบคุณไทยที่ร่วมทำงานมายาวนานกว่า 10 ปี พร้อมเสนอให้ปรับปรุงขั้นตอนนำเข้า ภาษี และอำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มปริมาณการค้า ผู้แทนอุตสาหกรรมดิจิทัลและ AI ยืนยันพร้อมสนับสนุนไทยในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภาคการผลิตและภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง

ทั้งนี้นายอนุทินขอบคุณผู้แทนอุตสาหกรรมทุกภาคส่วน และยืนยันว่าไทยพร้อมอำนวยความสะดวกให้การลงทุนของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยีควบคู่การลงทุน การส่งเสริมเศรษฐกิจ BCG และการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่–หุ่นยนต์มาใช้ในโรงงานไทย รวมถึงพร้อมผลักดันกฎหมายและกฎระเบียบเพื่อเอื้ออำนวยการลงทุน อีกทั้งเชิญชวนลงทุนในสาขาแปรรูปอาหาร สุขภาพ และการรักษาพยาบาล ซึ่งไทยมีศักยภาพสูง และยืนยันว่าไทยพร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเต็มที่ รับฟังข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจ เพื่อให้การลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้งสองฝ่าย และเน้นย้ำความสำคัญของการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการลงทุนในไทย