ผบช.สอท. ยันทำคดีลียง พัคไม่ล่าช้า แม้พบคดีเกิดตั้งแต่ปี 65 เร่งประสานกัมพูชา-ขอหมายแดง หลังปรากฏภาพลียง พัค – ก๊กอาน ในพิธีเปิดสนามเตโช ประเทศกัมพูชา ย้ำไม่กังวลยังมีความขัดแย้งระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมด้วยนายกมลสิษฐ์ วงศ์บุญน้อย รองเลขาธิการ ปปง. นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ร่วมแถลงข่าว ยึดอายัดทรัพย์สินนาย ลี ยงพัด (พัด สุภาภา) ซึ่งเกี่ยวข้องขบวนการหลอกลวงทางไซเบอร์ และฉ้อโกงประชาชน
พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยว่า การขอหมายศาลเจ้าหน้าที่ใช้หลักฐานเส้นทางการเงินซึ่งผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงผ่านระบบออนไลน์เข้าแจ้งความระหว่างปี 2565-2567 กระทั่งนำไปสู่การเข้าค้นดังกล่าว โดยจากข้อมูลพบว่า เส้นเงินทั้งหมดที่พบขณะนี้เป็นเพียงเส้นเงินที่ถูกโอนต่อไปยังกลุ่มเครือข่ายชาวจีน 2 คน แต่ยังไม่พบเชื่อมโยง มาถึงบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงในประเทศไทย ส่วนการติดตามจับกุมนายลียง พัค และครอบครัว ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก๊ก อาน ขณะนี้ตำรวจ ได้อยู่ระหว่างประสานงาน กับประเทศกัมพูชา หลังปรากฏภาพนายลียง พัค และก๊ก อาน ปรากฏตัวในพิธีเปิดสนามบินเตโชที่ประเทศกัมพูชา ประกอบกับการเร่งประสานตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดงสำหรับติดตามตัวมาดำเนินคดี ยืนยันว่าแม้ขณะนี้ ประเทศไทยและกัมพูชายังคงมีประเด็นเรื่องความมั่นคง แต่ตำรวจจะดำเนินการในทุกมิติ

เมื่อถามว่ากรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการใช้หลักฐานเส้นทางการเงินที่ปรากฏตั้งแต่ปี 2565 มาใช้ เป็นหลักฐานในการขอศาลออกหมายจับ เป็นความล่าช้าหรือไม่ พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้ดำเนินการล่าช้าแต่เป็น เรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐานที่จะต้องทำให้ปรากฏชัดเจนว่า หลักฐานที่ตำรวจได้มา เป็นเช่นนั้นที่เกี่ยวข้องกับการทำความผิดจริงหรือไม่ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าเป็นเส้นเงินที่ได้จากการใช้กระทำความผิดจริงโดย เป็นเงินที่ถูกโอนมาจากผู้เสียหายหลายคนรวมมีมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท

เมื่อถามว่าการติดตามอายัดทรัพย์ของทั้ง 2 เครือข่าย นายกมลสิษฐ์ กล่าวว่า ปปง. ได้ออก 4 คำสั่งเพื่ออายัดทรัพย์ เครือข่ายก๊กอาน ซึ่งเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดฉ้อโกงผ่านออนไลน์ ในหลายพื้นที่รวมทั้งหมด 600 ล้านบาท แบ่งเป็นคดีเก่า 200 ล้าน และคดีล่าสุด 400 ล้าน ซึ่งขั้นตอนการอายัดทรัพย์ปปง. มีกรอบระยะเวลาให้ผู้ที่ถูกกล่าวหา เข้าชี้แจงที่ทรัพย์สินภายใน 90 วัน โดยเฉพาะผู้ต้องหา ที่เป็นชาวต่างชาติสามารถ ตั้งตัวแทนให้เป็นผู้เข้าชี้แจงได้แต่หากไม่เข้าชี้แจงหรือไม่สามารถที่จะชี้แจงข้อมูลได้ศาลแพ่งจะพิจารณาอายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่ตรวจยึดมาได้เป็นของแผ่นดิน

