ยะลา, วันที่ 28 ตุลาคม – ความคืบหน้ากิจกรรม “ทำดี 100 วัน” ถวายแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์ ‘แม่ของแผ่นดิน’ โดยสมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ (JSD-South) ร่วมกับภาคเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ทำกิจกรรมสาธารณกุศลโดยให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบางในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยมอบสิ่งของและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับผู้ป่วยติดเตียง การช่วยเหลือด้านปัจจัยพื้นฐานมอบอิฐเพื่อสร้างและซ่อมแซมบ้านเรือน และแจกอาหาร ข้าวสารอาหารแห้ง 100 ชุดต่อเนื่อง 100 วัน ร่วมพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีภายในชุมชน รวมทั้งส่งเสริมเยาวชนโดยการเชิญชวนนักเรียนจาก 100 โรงเรียน ในพื้นที่ ร่วมเขียนเรียงความในหัวข้อ “ทำดี 100 วัน” โดยวันนี้ก้าวสู่เป็นวันที่ 18
โดยกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายที่สำคัญหลากหลายกลุ่ม ได้แก่ ศูนย์พัฒนาอาชีพกลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้ และผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ อาทิ นายปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี/เนชั่นออนไลน์ และบรรณาธิการศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา, NBT จังหวัดยะลา รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานรัฐอย่าง นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร เลขาธิการ ศอ.บต. และ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9

นางสาวนาซือเราะ เจ๊ะฮะ นายกสมาคม JSD-South กล่าวว่า “วันนี้เป็นวันที่ 18 แล้วที่ได้ทำความดีตามแผนที่กำหนดไว้ 100 วัน พวกเรายังคงยืนหยัดสู้ ทำความดีเพื่อแม่หลวงของแผ่นดินต่อไป ขอขอบคุณแรงสนับสนุนจากหลาย ๆ ภาคส่วนที่ทำให้พวกเรามีพลังที่จะทำความดี การลงพื้นที่ในทุก ๆ วัน ทีมข่าว และภาคีเครือข่ายทุกคน” ซึ่งโครงการ “ทำดี 100 วัน เพื่อแม่ของแผ่นดิน” ไม่ใช่แค่กิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมทั่วไป แต่เป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงบทบาทใหม่ของสื่อมวลชนในพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อนสูง

ด้านนายปกรณ์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา และหนึ่งในภาคีเครือข่าย ได้ให้มุมมองว่าการเข้าร่วมโครงการของบุคคลระดับสูงในองค์กรสื่อและหน่วยงานรัฐ แสดงให้เห็นถึงการผนึกกำลังเพื่อใช้ “พลัง Soft Power ในการสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ อีกทั้งยังมีการหลอมรวม “สื่อ” กับ “หน่วยความมั่นคง” อย่างสร้างสรรค์ การที่สื่อมวลชนที่เน้นการตรวจสอบอย่างสำนักข่าวอิศรา, สื่อหลักในพื้นที่อย่าง NBT ยะลา, มาร่วมกับหน่วยงานหลักอย่าง ศอ.บต. และ ตำรวจภูธรภาค 9 ในกิจกรรมเชิงบวกนี้ ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า การแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ไม่ได้มีแค่เรื่องความมั่นคง แต่ต้องควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความไว้วางใจ การลงพื้นที่มอบความช่วยเหลือโดยตรงช่วยลดช่องว่างระหว่าง “รัฐ” กับ “ประชาชน” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ การแจกอาหาร 100 ชุด/วัน เป็นเวลา 100 วัน ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความคาดหวังเชิงบวกในระยะยาว การช่วยเหลือแบบต่อเนื่องนี้จะสร้าง “รอยเท้า” ของความดีในชุมชน ทำให้โครงการนี้ไม่ใช่เพียง “ไฟไหม้ฟาง” แต่เป็นความมุ่งมั่นที่ต่อเนื่อง
ทั้งยังมีกิจกรรมให้นักเรียน 100 โรงเรียนร่วมเขียนเรียงความเรื่อง “ทำดี 100 วือน” ซึ่งถือเป็นการลงทุนทางความคิด เพื่อปลูกฝังคุณค่าของการทำความดีและการมีส่วนร่วมทางสังคมให้แก่เยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของพื้นที่ และสร้างการรับรู้ต่อโครงการในวงกว้างระดับโรงเรียน ถือเป็นแบบอย่างของการใช้พลังความร่วมมือระหว่างสื่อ และภาครัฐเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนใต้

