หน้าแรกสุขภาพ-สิ่งแวดล้อมฉก.ทส. ทวงคืนป่า 141 ไร่ พบขบวนการขุดร่องน้ำ เปิดทางน้ำไหลลงสู่ทะเล ทำระบบนิเวศน์ล่ม

ฉก.ทส. ทวงคืนป่า 141 ไร่ พบขบวนการขุดร่องน้ำ เปิดทางน้ำไหลลงสู่ทะเล ทำระบบนิเวศน์ล่ม

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉก.ทส.) ที่มี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ ในฐานะหัวหน้าชุด ฉก.ทส. ว่า มีกลุ่มเอกชนลักลอบนำรถแบคโฮเข้ามาขุดร่องน้ำ เพื่อปล่อยน้ำในพื้นลงสู่ทะเล บริเวณฝั่งหาดพระยา เป็นการทำลายระบบนิเวศน์ สัตว์ทะเลหายาก รวมถึงหาน้ำในพื้นที่ลดลงจนแห้ง เกรงว่าจะไม่ได้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ และทำให้บางกลุ่มสามารถอ้างขอเอกสารสิทธิได้ 4 พ.ย. 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรฯ มอบหมายให้ พล.ต.ต.นันทชาติ พร้อมด้วย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นายเทวินทร์ มีทรัพย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีการขุดร่องน้ำจริง ในพื้นที่ 2-2-48 ไร่ พื้นที่เสียหาย 141-3-30 ไร่ น้ำไหลผ่านทั้งพื้นที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด และ กรมป่าไม้ ก่อนปล่อยน้ำออกทะเล

แต่จากการสอบถาม หัวหน้ากรมอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ยืนยันว่า ขณะที่รถแบคโฮ เข้ามาขูดร่องน้ำในพื้นที่นั้น ตนรับทราบ แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของ ทช. โดยหัวหน้ากรมอุทยานฯ อ้างแนวเขตปี 2509 จึงไม่เกี่ยวข้องและไม่ได้ดำเนินการอะไร คนละส่วนกับพื้นที่กรมอุทยานที่มีการขุดร่องน้ำเช่นกัน แต่ในส่วนของกรมอุทยานฯนั้น เป็นของกรมอุทยานฯ ขุดเอง เพื่อปรับภูมิทัศน์

ขณะที่ ฉก.ทส. กำลังตรวจสอบพื้นที่ที่น้ำแห้งผากและดินแตกระแหง นายมานพ ตั้งบูรพาจิตร์ หรือคนพื้นที่เรียกกันว่า สจ.ตี๋ รองนายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ นำชาวบ้านเข้าประจันหน้า ยืนยันสิทธิ์ในที่ดิน พร้อมส่งเสียงดังยืนยัน เป็นของตนเองและชาวบ้านอีกหลายคน ตนซื้อมาจากชาวบ้านด้วยปากเปล่า ไม่มีโฉนดสักที ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ของอุทยานฯ และ ทช. ส่วนมูลค่าเท่าไรนั้น ตนขอไม่ตอบ และไม่บอกซื้อจากใคร แต่ตนมีเงิน พร้อมท้า ทช. มาวัดเขต ว่าเป็นของ ทช. จริงหรือไม่ มองว่าการทำเช่นนี้ รัฐกลั่นแกล้งหรือไม่ ส่วนจะเอาผิดหรือสั่งย้ายหัวหน้าอุทยานฯ ที่ขณะนี้กำลังถูกตรวจประเด็นขุดร่องน้ำนั้น มองว่า ไม่เกี่ยว แต่ทำแบบนี้คือจะเอาผิดและเอาพวกของตัวเองเข้ามาทำงานแทน ส่วนตัวยอมรับรู้จักหัวหน้าอุทยานฯเป็นปกติ เพราะตนเป็นนักการเมือง หัวหน้าอุทยานฯ เป็นข้าราชการ ก็ต้องประชุมกัน หลังจากนี้จะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาในพื้นที่ ป่าชายเลนก็อ้างสิทธิมา “มาปล้นที่ชาวบ้าน ทุบ และเอาเงินด้วย ” ตนไม่ได้ต้องการทะเลาะเพราะการเมือง แต่ทะเลาะเพื่อสิทธิ์ที่ควรได้รับ

ขณะที่ พล.ต.ต.นันทชาติ ย้ำ พื้นที่นี้เป็นแนวเขตปี 2509 และ 2525 เป็นไปตามตามราชกิจจาฯ และพื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตป่า ซึ่งต้องพิสูจน์การบุกรุกต่อไป โดยตนได้มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจ กรมอุทยานฯกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป่าไม้ เป็นผู้เสียหายร่วมกันในการแจ้งข้อกล่าวหา เนื่องจากพื้นที่นี้มีมติจาก ครม.เมื่อ 2530 ประกาศเป็นป่าชายเลน และพื้นที่ชุ่มน้ำ มีแหล่งระบบนิเวศที่ดีมากอันดับที่ 11 ของประเทศไทย แต่ขณะนี้มีขบวนการพยายามปล่อยน้ำออกทะเล ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ จะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมมือหรือไม่

ส่วนกรณีหัวหน้าอุทยานฯ อ้างคำสั่งอธิบดีฯ ว่า ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ (เป็นของ ทช.) จะทำอย่างไร พล.ต.ต.นันทชาติ ระบุว่า แค่คำสั่ง แต่อะไรที่ใหญ่ คือ กฎหมายหรือกฤษฎีกา ต้องยึดอันนั้น ลั่นหากจะปฏิเสธก็เชิญ เป็นสิทธิ สู้คดีตามหลักฐานที่ปรากฏ

ที่ปรึกษา รมว.ทส. ระบุต่อว่า การขุดร่องน้ำในพื้นที่หวงห้ามนี้ ทำลายระบบนิเวศอย่างรุนแรง ความเสียหายประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทางธรรมชาติ เช่น นกต่างถิ่น บินมาพักพื้นที่แห่งนี้ นั่นคือธรรมชาติ ที่ไม่สามารถซื้อได้ หากไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร นกก็ไม่มา สร้างความเสียหายทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่เป็นความเห็นแก่ตัวของคนบางคน ต้องการเอาพื้นที่นี้ไปใช้ประโยชน์และทำลายสิ่งที่จะเป็นของลูกหลานในอนาคต มองว่าไม่สมควร ส่วนที่มีชาวบ้านอ้างสิทธิ์นั้น ก็ไม่เป็นไร ทางเรามี “หลักฐานทางวิทยาศาสตร์” และการวัดแผนที่ที่ถูกต้อง แม่นยำกว่าในอดีตว่าเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ 3 กรม (อุทยานฯ, ทช., ป่าไม้) ในกระทรวงทรัพยากรฯ หากไม่มีเอกสารสิทธิ์จริง ประชาชนสามารถเข้ามาหาเจ้าหน้าที่ได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมตามคำสั่ง นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทส.

“หากพบว่าเจ้าหน้าที่กระทำความผิด ก็จะถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและความผิดทุกๆเรื่อง พร้อมยังฝากบอกว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ทั้งน้ำและป่า จะมาให้เพียงไม่กี่คนใช้ความเห็นแก่ตัวมาเอาพื้นที่ ซึ่งเป็นสมบัติของชาติไปได้อย่างไร รวมถึงนายสุชาติดูแลกระทรวงนี้ ถามกลับว่า กล้าเอา ที่ดินพวกนี้จากกระทรวงไปหรือไม่?”

การขุดร่องน้ำนั้น ทำเป็นขบวนการหรือไม่ พล.ต.ต.นันทชาติ เชื่อว่ากลุ่มที่กระทำการ “น่าจะรู้จักกัน คงจะพูดคุยกัน” เพราะมีการขุดร่องน้ำเชื่อมต่อกันหมด ทำให้น้ำแห้งพร้อมกัน และเท่าที่ทราบ การกระทำแบบนี้ดูเหมือนเคยเข้าสู่คณะกรรมการจังหวัด แต่ถูกตีตกไป เหมือนกับว่าจะใช้พื้นที่ประโยชน์ตรงนี้แต่ไม่ทราบว่าจะทำอะไร แต่จะออกเอกสารสิทธิ์ ซึ่งทาง ทช. ต้องยับยั้งอยู่แล้วเพราะเป็นพื้นที่ป่าชายเลน ทั้งนี้ บางคนอาจจะไม่เข้าใจก็สามารถต่อสู้หรือฟ้องศาล ฟ้องเจ้าหน้าที่ และพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีคำสั่งศาลปกครองชี้ชัดว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลน และหากดำเนินการสาวไปถึงใคร ซื้อขายเปลี่ยนมือหรือไม่ การสอบสวนต้องทำเต็มที่ในชั้นนี้ อาจนำไปสู่การขอให้โอนสำนวนการสอบสวนไปกองบังคับการปราบปราม หากมีความซับซ้อน ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

ด้านนายเผด็จ ลายทอง รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดเป็น “ป่าชายเลน” ตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2530 เพื่อสงวนไว้สำหรับการอนุรักษ์ ห้ามใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีหลักฐานจากภาพถ่ายทางอากาศ พบว่าพื้นที่นี้ มีน้ำท่วมถึงและไม่มีร่องรอยการทำกินมาก่อน จึงถือเป็นพื้นที่ป่าชายเลนตามมติ ครม. ส่วนสภาพพื้นที่ไม่ใช่ป่าชายเลนนั้น แม้บางส่วนจะไม่มีสภาพป่าแล้ว แต่ยังถูกจัดเป็น “เขตสงวนหวงห้าม” เนื่องจากเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของป่าชายเลนอื่น ๆส่วนการอ้างสิทธิ์หรือถือครองที่ดิน หน่วยงานจะตรวจสอบว่าเอกสารสิทธิ์ ออกก่อนหรือหลังปี 2530 หากออกหลัง ต้องตรวจสอบที่มาของสิทธิ์อย่างละเอียดด้วยภาพถ่ายทางอากาศ ในกรณีนี้เรายังไม่รู้ว่าเขาเข้ามา ทำประโยชน์อะไร เราก็จะแจ้งในข้อหาบุกรุก เช่น ขุดร่องน้ำหรือเจาะบาดาล ทช. จะแจ้งข้อกล่าวหาตาม มาตรา 54 แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งเป็นอำนาจตามกฎหมายที่ผ่านมามีประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนตามมติ ครม. 2530/2543 จริง จึงมีนโยบายแก้ไขปัญหา โดยการจัดสรรที่ทำกินให้ผู้ที่อยู่มาก่อนปี 2557 ภายใต้โครงการ คทช. (คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับพื้นที่อนุรักษ์ได้อย่างถูกกฎหมายด้านนายสุคิด เรืองเรื่อ นักวิชาการป่าไม้ฯ เผยผลกระทบว่า เมื่อน้ำในพื้นที่ป่าชายเลยไหลลงสู่ทะเล จนน้ำแห้ง ดินพัง ทำลายวงจรน้ำขึ้น-น้ำลง ส่งผลให้หน้าดินเปิด ดินแตกระแหง ต้นไม้ตาย ระบบนิเวศล่ม สัตว์ทะเลและสัตว์หน้าดิน (กุ้ง หอย ปู ปลา) ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลลูกสัตว์ และอาหารของนกต่างถิ่น หายไปหมด และจะยิ่งทำให้การฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม ยิ่งทำได้ยากมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทาง พล.ต.ต.นันทชาติได้สั่งทำฝาย เพื่อชะลอน้ำที่จะออกจากพื้นที่สู่ทะเลแล้ว และมอบหมาย อุทยานฯ, ทช., ป่าไม้ เข้าแจ้งความในฐานะผู้เสียหายแล้ว

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img