พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ คลิปการให้สัมภาษณ์ของ อดีต รอง ผบ.ตร. คนดังคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน พยายามโยงให้ ประชาชน และสังคมเห็นว่า ตนเป็นหนึ่งในทีมจับกุม นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.จังหวัดสงขลา พรรคกล้าธรรม จับคาสนามบิน เป็นข่าวครึกโครม ต่อมา มีการสั่งไม่ฟ้อง มีข่าวว่ามีเงินตกร้อยกว่าล้านบาท เพื่อจะสื่อให้เห็นว่าไปเกี่ยวข้องด้วย แล้วโยงกลับมาว่า เสียใจไม่หายบ้านของท่านเอง
สส.จังหวัดสงขลา ก่อนหน้านี้ก็โดนจับยาเสพติดลูกชายก่อนหน้านี้ก็โดนจับเว็บพนัน มันเป็นไปได้อย่างไร บ้านบิ๊ก จ. บ้านรอง จ. แล้วคนสงขลา ก็ด่าว่าไม่ทำให้สงขลามันดี บอกว่ารอท่าน เป็น ผบ. ก่อน จะกวาดให้เรียบ
ด้วยเหตุตรงนี้ไง พอ ผบ. ต่อ เป็น ผบ. ก็เลยมีคำสั่งว่า ปีหน้า จ. จะเป็น ผบ.ต่อ ไม่ได้ เพราะถ้าเป็น ผบ.ตร.ต่อได้ พวกนี้โดนกวาดทั้งหมด ลูกน้องเครือข่าย
“สุดท้ายก็นำไปสู่อะไร พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ หนึ่งในชุดจับ สส.ชนนพัฒน์ฯ ไปขอหมายจับผมเลย ทั้งที่ไม่ได้ออกหมายเรียกผมเลย ตลกไหม แล้วผมเป็นผู้บังคับบัญชาที่ ทำงานอยู่ทุกวัน ครั้้งแรกศาลไม่ออกหมายจับ มาขอได้ไง ก็เขาเป็นรอง ผบ.ตร. เขามาทำงานทุกวัน คุณก็ให้ใครไปแจ้งเขาสิตลกไหม”
ทั้งหมดคือสิ่งที่ อดีต รอง ผบ.ตร. กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ
อะไรคือความจริง อะไรคือความเท็จ ความจริงคือ ช่วงที่มีการจับ สส.ชนนพัฒน์ คาสนามบิน ตนยังเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ยังทำงาน ทำหน้าที่ ดูแลทุกข์ สุข รับใช้ประชาชนที่รักในพื้นที่เสี่ยงภัย คือ จังหวัดยะลา ไม่ได้ไปร่วมจับอย่างที่ท่านกล่าวหา ลองไปย้อนดูไทม์ไลน์ ดู วันเวลา เกิดเหตุ ช่วงจับกุมให้ดี ๆ ก่อนดีหรือไม่
อะไรคือความเท็จ ก็คือสิ่งที่กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ นั่นแหละ คือความเท็จ
อะไรคือความจริงอีก ช่วงที่มีการขอหมายจับท่านต่อศาลอาญา เพราะเหตุที่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ หากมีการออกหมายเรียกไป ท่านและลูกน้องท่าน ก็จะพากันทำลายหลักฐานสิ โดยเฉพาะหลักฐานทางดิจิทัลต่าง ๆ และกฎหมายก็เปิดโอกาสให้ทำได้โดยไม่ต้องออกหมายเรียก ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ก็เขียนไว้ ทำได้ และก็ทำกันเป็นปกติ ท่านก็เพราะเหตุที่ไม่ได้ออกหมายเรียก ไปออกหมายจับเลยนี่แหละ ทำให้เราได้หลักฐานดี ๆ ออกมามัดท่านและลูกน้อง
ในการขอหมายจับครั้งแรก ศาลไม่ได้บอกอย่างที่ท่านพูดหรอก ท่านอยากรู้ รอไปฟังตนแถลงที่ศาล ตนทำตามขั้นตอนของกฎหมาย และลูกน้องท่าน ก็ไปฟ้องผมแล้วในประเด็นนี้ ไปฟ้องต่อศาลคดีทุจริตกลางฯ ต่อมามีการยื่นหลักฐานชี้แจงต่อศาล สุดท้ายศาลก็ยกและท่านก็รู้ว่าดีว่าศาลยกแล้ว แต่ก็ยังนำเรื่องนี้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชลให้ประชาชนเห็นว่า ทุกเรื่องนั้น ท่านถูกกลั่นแกล้ง จับแพะ ชนแกะ เพื่อให้ดูสมจริง สมจัง สมเหตุสมผล ตนไม่ไปออกสื่อตอบโต้กับท่าน ท่านคือคนเก่ง คนมีความสามารถ ท่านมี FC ที่เชื่อมั่นและศรัทธาต่อท่านมากมาย ตนยอมท่านในเรื่องเหล่านี้ จึงรอเวลา อดทนเข้าไว้ รอวันเวลาที่จะได้ไปแถลงต่อศาลในคดีของท่าน
คนที่เคยโกหก และโกหกเรื่อย ๆ จะทำจนเป็นนิสัย จนเป็นเรื่องปกติ พูดโกหกได้เนียน จนเหมือนจริง หนักแน่น โผงผาง ดุดัน เหมือนที่ไปว่า ท่านอดีต คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ในคณะกรรมาธิการฯ ไปชี้หน้าว่าท่านอย่างนั้น อย่างนี้ เพราะท่านพูดความจริง ท่านรับไม่ได้ จึงมีอาการแสดงออกอย่างนั้น
อีกเรื่องที่เห็นว่าท่านโกหกชัด ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โกหกไปเรื่อย ๆ เรื่องแอบอัดคลิปเสียงผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ที่ท่านเคยไปนั่งคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กับ ประธาน ปปช.(คนปัจจุบัน) และท่านก็เป็นคนนัดประธานสภาฯ ขอเข้าพบ แต่ท่านก็ไปทำร้ายนายวันมูหะมัดนอร์ เสียเอง แล้วก็พูดเฉไฉไปเรื่อยว่า ไม่ได้แอบอัดคลิปเสียงการสนทนาดังกล่าว สุดท้ายนักรบโซเชียลก็จับโกหกคำโตท่านได้ สุดท้ายท่านก็ออกมายอมรับ สังคมยังเชื่อมั่นท่านอยู่อีกเหรอ
อะไรคือเท็จ ก็คือคำที่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ว่าที่ไปออกหมายจับก็เพราะไม่อยากให้ท่าน เป็น ผบ.ตร. ไม่อยากให้ท่านไปกวาดจับเว็บพนันออนไลน์
บอกท่านได้เลยว่า ตนไม่เคยนิ่งดูดาย เรื่องปราบเว็บพนัน ก็มองแบบประชาชนมอง ว่าเว็บไซต์พนันนี่แหละคือสิ่งชั่วร้ายที่มอมเมาประชาชน มอมเมาลูกหลานเรา มอมเมาสังคมเรา เป็นภัยร้าย เป็นมะเร็งร้ายของสังคม มันลามไปทั่ว ไปถึงประตูบ้าน ไปถึงห้องนอน ท่านอยู่ที่ไหนก็เล่นได้ ตนก็เลยปราบก็เลยไปสืบจับ จนพบพยานหลักฐานสำคัญ ในหลาย ๆ คดี ปัจจุบันก็ยังปราบอยู่ครับท่าน ไม่ได้หยุดหย่อน อย่าเอาดีใส่ตัว ชั่วคนอื่นรับไป
และตนกับทีมงานก็สืบขยายผลไป จนพบว่าท่าน และลูกน้องท่าน ก็คือ กลุ่มข้าราชการตำรวจกลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ่ง นั่นแหละ ที่เอื้อต่อพวกเขาไหม และรับประโยชน์จากเงินของพวกเขาไหมจะอ้างยังไง ก็อ้างไปรอดูว่า เงินที่วิ่งเข้าบัญชีม้าของลูกน้องท่าน มีเพียงเรื่้องเว็บพนันอย่างเดียวไหม คำตอบก็คือไม่ มีเงินอื่น ๆ วิ่งเข้าไปอีกมากมาย คือเงินที่หาคำตอบไม่ได้อีกหลาย ๆ อย่าง ก็คงไม่ใช่เงินที่เขาจ่ายให้กับ ตำรวจที่เป็นลูกน้องท่านหรอก ลูกน้องท่าน ก็เป็นแค่ทางผ่าน ส่งต่อไปถึงใคร คนในสังคม ก็คงคิดกันเองได้
อย่าพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ เบี่ยงเบนประเด็นให้สังคมเห็นว่า ที่เขามาทำคดีท่าน เพราะต้องการเตะตัดขาท่าน ตนว่า ชุดที่ทำงาน เขาทำตามพยานหลักฐานที่ปรากฏมากกว่า ใครทำผิดตรงไหน ก็ว่ากันไปตรงนั้น อย่าดึงเรื่องนั้น เรื่องนี้ มาผสมปนเป เป็นเหตุผลอ้าง เพื่อให้ท่านดูดี ดูให้มีน้ำหนัก เรื่องนี้ไม่มีใบสั่งจากใคร เขาสืบสวนกันมาต่อเนื่องสืบสวนกันมาเป็นปี ใครจะเป็น ผบ.ไม่เป็น ผบ. เขาไม่ได้สนใจหรอก จิตวิญญาณนักสืบ เขาก็ทำตามพยานหลักฐานนั่นแหละ และตนก็มีจิตวิญญาณของนักสืบที่ได้รับการถ่ายทอดปลูกฝังจากอาจารย์มาตั้งแต่ ร.ต.ต. จนถึงทุกวันนี้
เรื่องคดีของท่านและลูกน้อง ตนไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียอะไรกับใครทั้งนั้น เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำการสืบสวน สอบสวน เรื่องใด ตนทำเต็มที่ ทำตามบทบาท หน้าที่ ที่ได้รับ เมื่อปรากฏพยานหลักฐานทางคดีไปถึงใคร แค่ไหน ตนก็ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่ว่านั้น
