“เอก อังสนานนท์” ขอแฟนคลับใช้สติ รอคำวินิจฉัย​จาก​ป.ป.ช.-ศาล​ หากชนะคดีฟ้องกลับได้​

374

อดีตรอง ผบ.ตร. ชี้ดราม่า “องค์กรตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมระดับประเทศ” สะเทือนวงการตำรวจครั้งใหญ่ วอนแฟนคลับใช้สติ รอผลการพิจารณาจาก​ป.ป.ช.และศาล​ ยันการดำเนินการทุกขั้นตอนโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งใคร

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกมาเปิดประเด็นว่ากองบัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็น “องค์กรอาชญากรรมระดับประเทศ” จนสร้างแรงสั่นสะเทือนในสังคม พร้อมมีกลุ่มผู้ติดตามทั้งสองฝ่ายแสดงท่าทีตอบโต้กันอย่างเข้มข้น

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ตลอดเส้นทางประวัติศาสตร์ตำรวจไทย ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาโต้แย้งกันแบบมีฐานแฟนคลับสนับสนุนจำนวนมากเช่นครั้งนี้ จึงอยากให้ประชาชนฟังข้อมูล “ทุกฝ่าย” และไม่ด่วนตัดสินล่วงหน้า

“ในฐานะนักกฎหมาย ขอให้รอองค์กรกลางตัดสินก่อนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ผิดหรือไม่ ซึ่งเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. และศาลคดีอาญา​ ส่วนเรื่องวินัยก็อยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด เราทุกคนอยู่ภายใต้กติกา ไม่มีใครไปเปลี่ยนคำวินิจฉัยได้”พร้อมย้ำว่า ไม่ว่าจะผลออกมาเช่นไร หากในที่สุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ชนะคดี ก็สามารถดำเนินการฟ้องกลับผู้กล่าวหา รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ตามสิทธิทางกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นขอให้สังคม “ใจเย็น” และเชื่อมั่นในกระบวนการสอบสวนที่โปร่งใส

พล.ต.อ.เอก ระบุอีกว่า ในฐานะ ก.ตร. กล้ายืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบต่างๆ มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ “ไม่ใช่การหลับหูหลับตาทำ” พร้อมชี้ว่าความขัดแย้งในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะกระทบต่อศรัทธาของสังคมต่อองค์กรตำรวจโดยตรง

ในช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ พล.ต.อ.เอก ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่ามีสายสัมพันธ์ที่ดีมาตั้งแต่รุ่นพ่อ

“พ่อของเขาเป็นนายดาบที่ผมนับถือ เรียกผมว่า ‘อาเอก’ ผมรักและเอ็นดูเหมือนน้อง แต่วันนี้เหมือน ‘กินในที่ลับ แล้วมาพูดในที่แจ้ง’ ซึ่งมันไม่ใช่ความเป็นสุภาพบุรุษ”

ทั้งนี้ พล.ต.อ.เอก ทิ้งท้ายว่า ตำรวจเป็นอาชีพที่ “ต้นทุนต่ำ แต่ความเจ็บปวดสูง” เพราะมักถูกสังคมตำหนิและไม่ค่อยได้รับความรัก แต่เขายืนยันด้วยความสุจริตใจว่า ตนไม่เคยรับเงินสินบนตามที่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหา และขอให้ทุกฝ่ายเคารพการวินิจฉัยของศาล ซึ่งเป็นที่สุดของข้อพิพาท

https://vt.tiktok.com/ZSyH7gtkV