กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ.,พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ, พ.ต.ท.ภาคิน สุขพรหม และ พ.ต.ท.หญิง สินีนาฏ เชิดชูตระกูลทอง รอง ผกก.5 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.5 บก.ปอศ.นำโดย พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ สว.กก.5 บก.ปอศ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสารนำโดย พ.ต.ท.ภัทรพล วิศวกรภักดี สว.สส.สน.สุทธิสาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร
ร่วมกันจับกุมตัว นายปกรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4840/2567 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” สถานที่และวันที่จับกุม บริเวณ ซ.รัชดา 36 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ได้มีผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. โดยให้การว่าในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 ผู้เสียหายได้พบโฆษณาในแอปพลิเคชัน Facebook เกี่ยวกับให้กู้เงิน ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียหายกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ต้องการเงินมาหมุนใช้จ่ายทั่วไป จึงได้เข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชันชื่อ“สินเชื่อที่จริงใจ”และได้ทำการกู้ยืมเงินจากแอปพลิเคชันดังกล่าว โดยการกู้ยืมเงินดังกล่าวเป็นการกู้ยืมเงินที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ในลักษณะของการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ภายในระยะเวลา 7 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยโดยรวมสูงสุดถึงร้อยละ 9.42 ต่อวัน หรือร้อยละ 3,474.80 ต่อปี ซึ่งเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และหากชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดเวลาหรือล่าช้า จะมีการทวงถามหนี้ด้วยการด่าทอ ข่มขู่ และประจาน
จากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. พบว่ากรณีการกู้ยืมเงินดังกล่าว มีการร่วมกันลักลอบประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดจริง โดยมีสมาชิก ทั้งหมด 24 ราย ได้แก่ 1.นายศุกบุญ (สงวนนามสกุล) 2.นางชลทิชา (สงวนนามสกุล)3.นายวศิน (สงวนนามสกุล) 4.นายตุ้ย (สงวนนามสกุล) 5.นายมนัส (สงวนนามสกุล) 6.นายพรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) 7.นายศตวรรษ (สงวนนามสกุล) 8.นางลัดดา (สงวนนามสกุล) 9.นางสาวสมบัติ (สงวนนามสกุล) 10.นางสาวปราณี (สงวนนามสกุล) 11.นางสาวรสจรินทร์ (สงวนนามสกุล) 12.นางสาวมิ่งขวัญ (สงวนนามสกุล) 13.นางสาวธัญทิพย์ คงชนะ 14.นายสุชิน ยิ้มละมัย 15.นางสาวศรัญญา แถลงคำ 16.นางสาวจินตนา สุขเขตต์ 17.นายปกรณ์ (สงวนนามสกุล) 18.นายเอกชัย (สงวนนามสกุล) 19.นางสาวนันทวัน (สงวนนามสกุล) 20.นางสาวอัญชลี (สงวนนามสกุล) 21.นางสาวตรีเนตร (สงวนนามสกุล) 22.นายอมรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) 23.นายสิรภพ (สงวนนามสกุล) 24.นางสาวณัฐกานต์ (สงวนนามสกุล) ได้ใช้บัญชีธนาคารของตนในการโอนเงินกู้ให้ผู้กู้และรับโอนค่าดอกเบี้ย
พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามาเพื่อรับทราบ ข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแต่อย่างใด น่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงได้พิจารณาขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายปกรณ์ (สงวนนามสกุล) ได้หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณ ซ.รัชดา 36 แขวงจันทร์เกษม ซึ่งเป็นสถานที่พักอาศัยของผู้ต้องหา จนกระทั่งพบเห็น นายปกรณ์ฯ กำลังยืนอยู่ที่บริเวณหน้าสถานที่ดังกล่าว จึงได้นำกำลังเข้าไปแสดงหมายจับเพื่อจับกุมตัว พร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายและข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชน อย่าหลงเชื่อในการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เพราะนอกจากอาจถูกบังคับทวงถามหนี้ด้วยความรุนแรงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย นำไปสู่ภาวะความเสี่ยงด้านการเงินและความปลอดภัย หากต้องการตรวจสอบแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อได้ที่ช่องทาง ดังต่อไปนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ https://app.bot.or.th/BotLicenseCheck สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เว็บไซต์ http://www.1359.go.th/picodoc/comp.php

