“พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น” เปิดเบื้องหลังภารกิจลับข้ามชาติ ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้นกำเนิดถึงจีน – ย้ำ “ตำรวจไทยทำได้!”

958

อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ โพสต์​FB​ ย้อนภารกิจเด็ดขาดเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ส่งตำรวจไทยลุยจีนร่วมทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่เมืองซัวเถา จับคนไทยกว่า 40 ราย-ผู้ต้องหาระดับบิ๊กนับร้อย ย้ำเชื่อมั่นในขุมกำลังตำรวจไทยรุ่นใหม่ “ผู้ช่วยก้อง–บิ๊กหวาน–บิ๊กธนา–บิ๊กราญ” มั่นใจเดินหน้าปราบสแกมเมอร์ข้ามชาติให้สิ้นซาก

พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 — พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงใน Facebook ส่วนตัว “Panya Mama” แสดงความภาคภูมิใจในความเสียสละของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครผู้กล้าหาญ ที่ทุ่มเททั้งแรงกายและหัวใจในการปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ซึ่งเคยสร้างความเสียหายให้กับประชาชนชาวไทยจำนวนมาก

พล.ต.อ.ปัญญา ย้อนเล่าถึงภารกิจสำคัญช่วงปี พ.ศ. 2550–2554 ว่าเป็นยุคที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เริ่มระบาดหนัก หลอกให้คนไทยโอนเงิน พร้อมทั้งนำคนไทยไปตั้งศูนย์โทรศัพท์หลอกลวง (call center) ในต่างประเทศ เช่น จีน เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ

พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ

ในขณะนั้น ท่านดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ได้รับมอบหมายจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้เร่งดำเนินการสืบสวนและประสานกับต่างประเทศเพื่อกวาดล้างขบวนการดังกล่าว โดยมอบหมายให้สองนายตำรวจคนสำคัญ คือ​ พ.ต.อ.สถิตย์ พรหมอุทัย (นรต.40) อดีตผู้การ สอท.​ และ​ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช (นรต.50) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ “ผู้ช่วยก้อง”

เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีน ประสานงานกับ พล.ต.ท.หลิว อันเฉิน ผู้บัญชาการตำรวจมณฑลกวางตุ้ง เป็นเวลาร่วม 3 เดือนเต็ม เพื่อสืบหาที่ตั้งของฐานปฏิบัติการ เส้นทางฟอกเงิน ตัวการใหญ่ และขบวนการนำคนไทยไปทำงานผิดกฎหมาย

จากความร่วมมือดังกล่าว นำไปสู่การ ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งแรก ที่เมือง ซัวเถา ประเทศจีน ซึ่งสามารถจับกุมคนไทยได้กว่า 43 คน และผู้ต้องหาชาวจีนระดับหัวหน้าเครือข่ายอีกนับร้อยราย พร้อมเปิดโปงเส้นทางการเงินเชื่อมโยงหลายประเทศ

หลังจากนั้น ตำรวจไทยยังคงร่วมมือกับทางการจีนอย่างใกล้ชิด จนสามารถปราบปรามเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ของชาวจีนที่มาตั้งฐานในประเทศไทย จับกุมผู้ต้องหาและหัวโจกได้หลายพันราย ทำให้ขบวนการเกิดความแตกแยกและล่มสลายชั่วระยะหนึ่ง

พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวย้ำว่า ความสำเร็จในภารกิจดังกล่าวเกิดจาก “การทำงานอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และถึงลูกถึงคน” ตามยุทธวิธีการปราบปรามอาชญากรรมระดับชาติ ซึ่งมุ่งเน้นให้คนร้ายเกิดความหวาดกลัว จนต้องยุติการเคลื่อนไหวเอง

“แม้ทุกวันนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะเปลี่ยนรูปแบบไปใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และย้ายฐานไปประเทศรอบไทย แต่ผมยังเชื่อมั่นว่า ตำรวจไทยทำได้ เราปราบได้ เราลดจำนวนมันลงได้” พล.ต.อ.ปัญญา ระบุ พร้อมให้กำลังใจตำรวจทุกหมู่เหล่าให้มุ่งมั่นทำในสิ่งถูกต้อง ยึดมั่นในคำปฏิญาณและอุดมคติตำรวจ

อดีตจเรตำรวจแห่งชาติยังแสดงความมั่นใจต่อขบวนการทำงานของตำรวจรุ่นใหม่ โดยเฉพาะทีมสืบสวนระดับแนวหน้าอย่าง ผู้ช่วยก้อง–บิ๊กหวาน–บิ๊กธนา–บิ๊กราญ ที่มีบทบาทสำคัญในการสืบสวนสอบสวนและประสานต่างประเทศ มั่นใจว่าภารกิจปราบสแกมเมอร์ครั้งนี้จะ “เกิน 100%” อย่างแน่นอน

“ขอให้ตำรวจไทยทุกนาย โชคดี มีชัย เหนือคนร้าย เพื่อให้ประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุข และให้เกียรติภูมิของประเทศไทยระบือไกลไปทั่วโลก” พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น กล่าวทิ้งท้าย

อ้างอิง​ FB / Panya Mama

https://www.facebook.com/share/p/1H2SSKeKWJ/?mibextid=wwXIfr