“มหาพรหมราชินี” (Mitrephora sirikitiae) ไม้ดอกหอมสีขาวปลายม่วงหายากของไทย ถูกค้นพบในผืนป่าแม่ฮ่องสอน และได้รับการตั้งชื่อเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สะท้อนพระมหากรุณาธิคุณในด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

มหาพรหมราชินี พรรณไม้แห่งพระเกียรติและการอนุรักษ์
ในผืนป่าบนดอยสูงของ อุทยานแห่งชาติแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 ดร.ปิยะ เฉลิมกลิ่น พร้อมผู้เชี่ยวชาญพฤกษศาสตร์จากต่างประเทศ ได้ค้นพบพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก — ไม้ต้นขนาดเล็กสูงราว 4–6 เมตร ที่มีกลีบดอกสีขาวปลายม่วงงอนขึ้นเป็นรูปกระเช้า กลิ่นหอมละมุนและบานอยู่เพียงไม่กี่วันในเดือนพฤษภาคม
ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 พรรณไม้ชนิดนี้ได้รับ พระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระนามาภิไธย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เป็นคำระบุชนิด (specific epithet) ของชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mitrephora sirikitiae Weeras., Chalermglin & R.M.K.Saunders เพื่อเทิดพระเกียรติในวาระเฉลิมพระชนมายุ 72 พรรษา

สัญลักษณ์แห่งความงามและความหวงแหนผืนป่าไทย
“มหาพรหมราชินี” เป็น พืชถิ่นเดียวของไทย และถูกจัดให้เป็น พืชหายากใกล้สูญพันธุ์ มีถิ่นอาศัยตามป่าดิบแล้งบนภูเขาสูงราว 1,100 เมตร ความงามของดอกที่โค้งประกบกันราวรูปกระเช้า เปรียบดังความอ่อนช้อยและละเมียดละไมของธรรมชาติ
ในปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการชมความงดงามของพรรณไม้นี้ สามารถพบได้ที่ บริเวณหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งการศึกษาและอนุรักษ์พันธุ์พืชหายากของประเทศ
ความหมายแห่งการอนุรักษ์
“มหาพรหมราชินี” จึงไม่ได้เป็นเพียงพรรณไม้สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์แห่งพระมหากรุณาธิคุณและแรงบันดาลใจในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของชาติไทย ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน
ข้อมูลโดย : ดร.กิตติยุทธ ปั้นฉาย สำนักวิจัยและอนุรักษ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์
ภาพโดย : ดร.วีระชัย ณ นคร
