ผกก.สน.เพชรเกษม นำทีมปฏิบัติการแหกคอกม้าทะลายเครือข่ายอย่างต่อเนื่องล่าสุดยึดเงินสด 1,400,000 กว่าบาท

447

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 16.35 น. เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท สยามบุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะเกษม รองผบช.น.​พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.นฤพนธ์ ธนกฤตานนท์รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว พ.ต.ท.เด่นดนัย วัฒนวิจิตรนนท์ รอง ผกก.สอบสวน สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม ได้ร่วมกันขยายผลเพื่อตัดวงจรเครือข่ายบัญชีม้า ภายใต้ “ปฏิบัติการยุทธการแหกคอกม้า” ได้ตรวจค้นยานพาหนะต้องสงสัย ยี่ห้อ Mercedez Benz รุ่น C350 e สีขาว ป้ายทะเบียน 1 ขถ 33xx กรุงเทพ ฯ ที่บริเวณ ลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้า โฮมโปร สาขา เพชรเกษม โดยมี น.ส.กุสุมาภัสน์ (สงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นผู้ครอบครอง รถยนต์คันดังกล่าว

ผลการตรวจค้นพบ (1)​ ธนบัตรรัฐบาลไทยจำนวน 906 ฉบับ รวมเป็นเงิน 960,000 บาท บรรจุอยู่ในถุงผ้าสีฟ้าวางอยู่เบาะหลังคนขับ ของรถคันดังกล่าว(2)โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น ไอโฟน 17 โปรแม๊กซ์ สีส้ม จำนวน 1 เครื่อง อยู่ภายในรถคันดังกล่าว (3) โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น ไอโฟน 11 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง ถืออยู่ในมือของ น.ส.กุสมาภัสน์ ฯ และตรวจค้นตัวนายธนกฤต (สงวนนามสกุล) ซึ่งยืนอยู่เดียวกันกับ น.ส.กุสุมาภัสน์ ฯ

ผลการตรวจค้นพบ ธนบัตรรัฐบาลไทยจำนวน 500 ฉบับ รวมเป็นเงิน 500,000 บาท บรรจุอยู่ในซองเอกสารน้ำตาล อยู่ภายในกระเป๋าที่ นายธนกฤตฯ สะพายอยู่ในขณะตรวจค้น โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น ไอโฟน 16 โปร สีดำ จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าที่ นายธนกฤตฯ สะพายอยู่ในขณะตรวจค้น
จึงได้เชิญตัวทั้งสอง มาที่สน.เพชรเกษม ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลแล้วเชื่อมโยงกับกลุ่มบัญชีม้าที่หลอกลวงผู้เสียหายที่พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วทั้งสองคนมีความเชื่อมโยงกัน และสามารถยึดเงินไว้ได้ถึง 1,406,000 บาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการสืบสวนขยายผล เพื่อตัดวงจรกลุ่มเครือข่ายบัญชีม้า ที่ได้ใช้หลอกหลวงผู้เสียหาย จนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ทางรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการระดมกวาดล้างอย่างเด็ดขาด ซึ่งในเคสนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการวางแผนทะลายเครือข่ายมาตลอด และที่สำคัญสามารถยึดเงินคืนให้กับผู้เสียหายไปก่อนนี้แล้วเป็น 800,000 บาท ซึ่งจะได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป