ส่ง“เจ้าพ่อชเวโก๊กโก่”ให้จีน​ อดีตอธิบดีกรมคุก ติงให้ระวัง ป้องกันหนี

989

“การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่หลายประเทศให้ความสำคัญ เพราะทำลายเศรษฐกิจของแต่ละประเทศเสียหายมูลค่ามหาศาล”

หากจับกระแสความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาประเทศจีนออกตัวแรงสุด ถึงขั้นส่งรัฐมนตรีฯ มาประสานกับรัฐบาลไทยแล้วลุยเข้าจัดการในพื้นที่ของประเทศพม่า โดยเฉพาะเมืองชเวโก๊กโก่ ขนคนจีนที่มีทั้งสมัครใจและถูกบังคับให้ทำงานกับแก๊งสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลับประเทศจีนหลายพันคน พร้อมส่งไล่ล่าหัวโจกสำคัญ นั่นคือนายเฉินหรือเฉินจื้อเจียง ผู้ก่อตั้งอาณาจักรเมืองชเวโก๊กโก่​ ต่อมาถูกทางการไทยจับกุมได้ ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม เตรียมส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้กับทางการจีน

จากประวัติพบว่านายเฉิน จื้อเจียง เกิดที่ประเทศจีน ชอบเรียนการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ อายุ 20 ปี เดินทางไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ เข้าร่วมทำธุรกิจออนไลน์จนร่ำรวย ปี 2014 นายเฉินถูกศาลจีนตัดสินว่ามีความผิดฐานออกหวยใต้ดิน แต่ไม่ได้รับโทษเพราะอาศัยอยู่ต่างประเทศ นายเฉินลงทุนธุรกิจกาสิโนที่กัมพูชาประสบความสำเร็จอย่างสูง พร้อมกับเปลี่ยนสัญชาติเป็นกัมพูชา ต่อมาปี 2016 นายเฉินจับมือกับ พ.อ.ซอ ชิต ตู ขุนศึกชาวกะเหรี่ยง ร่วมสร้างเมืองชเวโก๊กโก่

เมืองชเวโก๊กโก่เติบโตอย่างรวดเร็ว นายเฉินมีเครือข่ายธุรกิจร่วมลงทุนสร้างเมือง คิดเป็นมูลค่าราว 480,000 ล้านบาท ประกอบธุรกิจสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต่อมาทางการจีนแจ้งข้อหาว่านายเฉินมีความผิดฐานหลอกลวงประชาชนในหลายประเทศผ่านพนันออนไลน์มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ประสานตำรวจสากลออกหมายจับวันที่ 21 พฤษภาคม 2021 ถัดมาเดือนสิงหาคม 2022 ตำรวจไทยจับกุมนายเฉินได้ขณะนั่งรับประทานอาหารกับบุคคลมีชื่อเสียงและมีอิทธิพลในวงการต่างๆ ของไทย

ถ้าได้ศึกษาถึงประวัติและธุรกิจของนายเฉินแบบลงลึกในรายละเอียดจะพบว่าเกี่ยวกับผู้มีอำนาจทั้งในไทย กัมพูชา จีน และพม่า มีผลประโยชน์ร่วมกันนับแสนล้าน​ เมื่อนายเฉินถูกทางการไทยคุมตัวและเตรียมส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้กับทางการจีน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญไทยได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ว่าการส่งนายเฉินเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้จีนนั้นไม่ขัดรัฐธรรมนูญไทย

พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่าได้ประสานงานกับสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง ขั้นตอนธุรการหรือแนวทางการปฏิบัติส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน หากเป็นรายละเอียดเชิงลึก จะเป็นการประสานงานระหว่างทางการจีน พนักงานอัยการ และตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีความพร้อมครบถ้วนแล้วจะได้ประสานมายังกรมราชทัณฑ์ และทางเรือนจำฯ จะได้เตรียมผู้ต้องหาส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนวันเวลาไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดหรือการชิงตัวผู้ต้องหา

จากคำสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ประวุธ จัดว่ากรมราชทัณฑ์ได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากนายเฉินมีทรัพย์สินจำนวนมาก มีผลประโยชน์เชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลทั้งไทย จีน กัมพูชา และพม่า มีโอกาสที่จะเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้ ยิ่งถูกขังอยู่เมืองไทยด้วยแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นเสมอ

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดส่งตัวนายเฉินให้จีน “จอมมารน้อย” มีโอกาสอ่านเฟซบุ๊คของ นายธวัชชัย ไทยเขียว อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ปัจจุบันเป็นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ แชร์ความเห็นในเชิงห่วงใยของ นายวันชัย รุจนวงศ์ อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จึงขออนุญาตนายธวัชชัย นำมาถ่ายทอด

นายธวัชชัย แชร์เนื้อหาในเฟซบุ๊คว่า #ประสบการณ์และคำเตือนจากอดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระวัง!!!
“ที่น่ากลัวและอยากเตือนกรมราชทัณฑ์คือ เมื่อนายเฉอ จื้อเจียงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ศาลมีคำสั่งว่าการดำเนินการของศาลยุติธรรมในเรื่องการควบคุมตัวเพื่อส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นการทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามประวัติที่ผ่านมาศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นศาลสุดท้าย (คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนฎีกาไม่ได้ จบแค่ศาลอุทธรณ์) สั่งให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนทุกราย อนาคตของนายเฉินจึงต้องถูกศาลอุทธรณ์สั่งให้ส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้จีนแน่ๆ

ทางรอดของนายเฉินทางเดียวคือหนีครับ วิธีการหนีมีหลายวิธี อย่างที่เกิดขึ้นในอดีต คือแกล้งทำตัวป่วย เจ้าหน้าที่ต้องพาไปโรงพยาบาลตำรวจ จำเลยขอเข้าห้องน้ำ แล้วปีนออกทางหน้าต่างซึ่งมีพวกมารอรับ หรืออาจมีการชิงตัวตอนไปฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์หรือแหกคุก

ถ้าจำเลยหนีไปได้ ไทยกับจีนมีเรื่องกันแน่ เพราะจีนจะเอาตัวไปแต่แรก แต่ไทยไม่กล้าให้ เพราะนายเฉินสละสัญชาติจีนไปถือสัญชาติอื่น (น่าจะเป็นสัญชาติเขมร) จึงผลักดันกลับจีนไม่ได้ ต้องมาดำเนินคดีตามกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ถ้าหนีได้กรมราชทัณฑ์โดนหนักแน่ และประเทศไทยจะเสียหายใหญ่หลวง

อย่าลืมว่านายเฉินมีเงินเป็นแสนล้านและเป็นหัวหน้าในองค์กรอาชญากรรมสแกมเมอร์ มีพวกข้างนอกมากมายที่พร้อมจะชิงตัวหรือแหกคุก และนายเฉินมีเงินมหาศาลพร้อมที่จะติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วย เงินไม่เข้าใครออกใครนะครับ ระวังกันไว้ อย่าชะล่าใจแล้วจะพังพินาศทั้งกรมฯ และประเทศไทย เป็นห่วงนะครับจึงเตือนมา” นายวันชัย รุจนวงศ์ ระบุ

เนื้อหาที่นายวันชัยตั้งข้อสังเกตเรื่องแกล้งป่วย ทำให้นึกถึงตอนแป้ง นาโหนด หนีขณะนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช แม้แป้ง นาโหนด จะไม่มีเงินเท่านายเฉินแต่สามารถหนีได้แล้ว

“จอมมารน้อย” หยิบประเด็นที่นายวันชัยแสดงอาการเป็นห่วงมานำเสนอ เพื่อให้ทุกหน่วยพึงระวัง และไม่ขอแสดงความเห็นใดๆ เพราะวิญญูชนพึงประเมินได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองที่กุมอำนาจ บางคนบางกลุ่มเมื่อเจอเงินก้อนโตอาการโลภมักจะกำเริบ แบบไม่ใส่ใจว่าประเทศชาติจะเสียหายแค่ไหน ขอให้พวกกูกอบโกยผลประโยชน์ได้ก็พอแล้ว​ !!!