กทม.​ ระดมทุกภาคส่วน ดูแลประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระพันปีหลวง อย่างเรียบร้อยและสมพระเกียรติ

1429

(30 ต.ค. 68) เวลา 17.00 น. นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองปลัดกรุงเทพมหานคร ประชุมติดตามภารกิจการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้อง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และถวายพระเกียรติสูงสุด โดยมี นางสาวกนกวรรณ เอี่ยมลิ้ม นายธนิต ตันบัวคลี่ รองปลัดกรุงเทพมหานครพร้อมด้วย ผู้บริหารสำนัก หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร ศูนย์ประสานงานจิตอาสาพระราชทาน (ศอ.จอส.พระราชทาน) ภาค 1 (ส่วนหน้า) ผู้แทนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ศูนย์อำนวยการสนามหลวง เขตพระนคร

ในที่ประชุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภารกิจด้านต่าง ๆ ได้รายงานผลดำเนินงานประจำวัน ประกอบด้วย

สถิติผู้เข้าถวายสักการะ: สำหรับจำนวนประชาชนที่ผ่านประตูมณีนพรัตน์ เข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ในวันนี้ รวมทั้งสิ้น 3,586 คน จำนวนสะสม 12,852 คน

ด้านบริการอำนวยความสะดวก: จัดเต็นท์พักคอยและเก้าอี้นั่งพัก จัดเตรียมวีลแชร์สำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งวันนี้มีผู้ใช้บริการรวม 39 คน จัดรถกอล์ฟไฟฟ้าบริการรับส่งผู้สูงอายุ บริเวณถนนผ่านกลางสนามหลวง มีผู้ใช้บริการ 218 คน จัดเจ้าหน้าที่สื่อสารและล่ามอาสาภาษาต่างประเทศเพื่อให้ข้อมูลแก่ชาวต่างชาติ

ด้านสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม: จัดบริการสุขาสำหรับผู้พิการและรถสุขาเคลื่อนที่รวม 10 คัน แบ่งเป็น จุดตรงข้ามวัดมหาธาตุ 4 คัน ถนนหับเผย (ข้างศาลหลักเมือง) 2 คัน จุดพระแม่ธรณีบีบมวยผม 3 คัน พร้อมจัดจุดทิ้งขยะ 7 จุด มีเจ้าหน้าที่ประจำจุดพร้อมให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะ โดยวันนี้ปริมาณมูลฝอยโดยรวมที่จัดเก็บได้ 431 กิโลกรัม แบ่งเป็น มูลฝอยทั่วไป 109 กิโลกรัม (25.3%) มูลฝอยรีไซเคิล 168 กิโลกรัม (39.0%) และมูลฝอยเศษอาหาร 154 กิโลกรัม (35.7%) รวมปริมาณมูลฝอยสะสมตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2568 จำนวนทั้งสิ้น 7,705 กิโลกรัม

ด้านบริการให้ยืมเครื่องแต่งกาย: จัดจุดยืมผ้าถุงและกางเกง บริเวณอุโมงค์หน้าพระลาน ในวันนี้มีประชาชนใช้บริการ รวมทั้งสิ้น 681 ราย แบ่งเป็น ชาวไทย 648 ราย ชาวต่างชาติ 33 ราย โดยใช้บริการยืมผ้าถุง 650 ราย ยืมกางเกง 31 ราย ในส่วนของผ้าถุงและกางเกงที่ให้ยืม ได้ดำเนินการซักรีดทำความสะอาดทุกวัน

ด้านบริการทางการแพทย์และพยาบาล: จัดจุดบริการทางการแพทย์ 3 จุด ได้แก่ บริเวณอุโมงค์พระลาน 1 จุด และบริเวณสนามหลวง 2 จุด พร้อมทีมแพทย์-พยาบาลตรวจเยี่ยมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพประชาชนตลอดวัน มีผู้รับบริการทางการแพทย์ 15 ราย

ด้านความปลอดภัย: จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกตลอดพื้นที่ร่วมกับตำรวจ ติดตั้งกล้อง CCTV เตรียมรถดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ใกล้เคียง ตั้งวางถังดับเพลิงบริเวณสถานที่ประกอบอาหาร จัดเจ้าหน้าที่ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบอาหารภายในโรงครัวพระราชทาน เกี่ยวกับการใช้ก๊าซหุงต้มและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ปลอดภัย รวมถึงวิธีการใช้ถังดับเพลิงเพื่อระงับเหตุเพลิงไหม้เบื้องต้น

ด้านการเดินทาง: องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถ Shuttle Bus บริการฟรี โดยเชื่อมต่อสถานีขนส่งและจุดสำคัญ 8 เส้นทาง มุ่งสู่สนามหลวง คือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สายใต้ใหม่ สถานีหัวลำโพง สถานีเอกมัย บางใหญ่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน สถานีขนส่งผู้โดยสาร (หมอชิต 2) รถ Shuttle Bus เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า 6 เส้นทาง สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ได้แก่ ท่าพระ สนามไชย สามยอด และสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้แก่ สยาม วงเวียนใหญ่ รวม 19 คัน และเชื่อมต่อเรือโดยสารท่าเรือสะพานผ่านฟ้า 2 คัน รวมถึงเส้นทางปกติผ่านสนามหลวง 18 เส้นทาง มีผู้ใช้บริการสะสมตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2568 จำนวน 12,400 คน จำนวนรถบริการ 101 คัน จำนวนเที่ยว 2,035 เที่ยว เส้นทางที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุด คือเส้นทางอนุสาวรีย์ชัย เกาะพญาไท และ 6 เส้นทางที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า

การระดมจิตอาสา: ศูนย์ประสานงานจิตอาสาพระราชทาน (ศอ.จอส.พระราชทาน) ภาค 1 (ส่วนหน้า) ได้จัดกำลังจิตอาสาพระราชทาน โดยมีนักศึกษาวิชาทหารร่วมสมทบ รวมทั้งสิ้น 90 คน ปฏิบัติหน้าที่ใน 6 จุดหลัก ได้แก่ 1.ป้ายรถเมล์ฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2.ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3.จุดพักคอยเข้าสักการะบริเวณสนามหลวง 4.อุโมงค์ทางลอดหน้าพระลาน 5.จุดคัดกรองประตูมณีนพรัตน์ 6.ด้านทางออกประตูเทวาภิรมย์

ทั้งนี้ รองปลัดฯ ไทวุฒิ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนการปฏิบัติงาน ซึ่งในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว โดยนักท่องเที่ยวจะเข้าทางประตูมณีนพรัตน์ ออกทางประตูเทวาภิรมย์ เช่นเดียวกับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะ คาดว่าอาจมีประชาชนเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา เพื่ออำนวยความสะดวกรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยว จัดเตรียมห้องสุขาสำหรับผู้สูงอายุ เพิ่มจุดบริการทางการแพทย์ ประสานสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามตั้งจุดบริการรับแจ้งความ ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสุขลักษณะสถานที่ประกอบอาหารให้ผู้ประกอบอาหารโรงครัว นอกจากนี้ ให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมในกิจกรรม Big Cleaning ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 21.00 น. บริเวณท้องสนามหลวง

ในวันเดียวกันนี้ เวลา 11.30 น. นางสาวอรัญญา พรไชยะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตรวจจุดวางถังดับเพลิงบริเวณสถานที่ประกอบอาหาร เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันและระงับเหตุเพลิงไหม้เบื้องต้น จุดมอบอาหารและน้ำดื่มให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการดูแลและอำนวยความสะดวกในการบริการประชาชน