
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก, พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง, พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี รองผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.,ว่าที่ พ.ต.ต.บดี ดวนพล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ร.ต.ต.พิเชษฐ์ วรวิสุทธิวงศ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม นายจตุรงค์ฯ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลเท็จ หรือข้อมูลปลอมโดยมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันนำเข้าหรือส่งออกของที่ยังไม่ผ่านพิธีการ ศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร และซ่องโจร”สถานที่จับกุม ตลาดสด ถนนสวนผัก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 26-28 มิ.ย.68 ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี กรณีถูกหลอกรับจำนำรถยนต์ไว้กับเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งตนติดต่อกับผู้รับจำนำรถไม่ได้ จากนั้นผู้เสียหายได้ทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวจะถูกนำไปส่งขายยังประเทศเมียนมา จึงพยายามติดต่อ เพจดังกล่าวเพื่อขอไถ่รถคืน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการสกัดจับกุมจนทราบว่ารถคันดังกล่าวนั้นได้ถูกเปลี่ยนป้ายทะเบียน และนำออกผ่านชายแดนไปขายประเทศเมียนมาแล้ว
ต่อมาตำรวจทางหลวงชลบุรี ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ได้สืบสวนทราบถึงกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกรับจำนำรถคันดังกล่าว จึงได้ขอศาลจังหวัดชลบุรี อนุมัติออกหมายจับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทั้ง 12 คน ที่ร่วมในขบวนการในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลเท็จหรือข้อมูลปลอมโดยมีเจตนาที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนร่วมกันนำเข้าหรือส่งออกของที่ยังไม่ผ่านพิธีศุลกากรหรือเคลื่อนย้ายของ ออกไปโดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานศุลกากร และซ่องโจร” ซึ่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 11 ราย และนำส่ง พงส.สภ.หนองขาม ดำเนินคดี ตามกฎหมาย โดยนายจตุรงค์ หนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับในเครือข่ายได้หลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีสืบทราบว่า ผู้ต้องหาเดินทางมาในพื้นที่เขตธนบุรี จึงทำ การสกัดจับกุม จนกระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยซึ่งคาดว่าเป็นรถที่ผู้ต้องหาใช้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่ คือนายจตุรงค์ฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ สอบถามผู้ต้องหาให้รับสารภาพว่าตนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับนี้จริง ทั้งนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับติดตัวอีกจำนวน 1 หมาย ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธ์ุ กระทำผิดฐาน “ยักยอก” จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกจำนำรถ รับซื้อ-ขายรถผ่านเพจเฟซบุ๊ก และลักลอบนำรถส่งขายข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เตือนภัย
- การซื้อขายหรือการเปลี่ยนมือของรถ จะต้องมีการโอนผ่านทางทะเบียนที่กรมการขนส่ง ทางบกหรือขนส่งจังหวัดเท่านั้น
- การจำนำรถ ต้องตรวจสอบหาข้อมูล ความน่าเชื่อถือ ของแหล่งรับจำนำว่ามีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
- การซื้อขายหรือรับจำนำรถผ่านเพจเฟซบุ๊ก อาจเสี่ยงต่อการถูกหลอกหรือนำรถไปขายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตยังประเทศเพื่อนบ้าน
- รถยนต์เป็นยานพาหนะที่เปลี่ยนมือได้ง่าย ดัดแปลงได้ง่าย และอาจถูกนำไปขายโดยไม่ทราบแหล่งที่มาที่ไปของรถ ซึ่งยากต่อการติดตาม
และสำหรับผู้ใดที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มผู้ต้องหารายดังกล่าว สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สภ.ในพื้นที่ หรือ แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)”

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชนให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้างทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”

