นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินหน้ามาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักใน “เมืองรอง” อย่างเฉพาะเจาะจง มาตรการดังกล่าว เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
มาตรการหลัก อนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถ หักค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงหรือรีโนเวทสถานประกอบการเป็น 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง สำหรับผู้ประกอบการในเมืองรองที่อยู่ในระบบภาษีของรัฐ โดยสามารถใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2569
ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการยกระดับมาตรฐานและเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การติดตั้งเครื่องปรับอากาศการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนพลังงานและสนับสนุนความยั่งยืนการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานสถานประกอบการควบคู่กัน
รัฐบาลยังให้สิทธิ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรม ได้แก่ อาคารถาวรที่อยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยโรงแรมเครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนประกอบของอาคารและยึดติดอย่างถาวรโดยให้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีดังกล่าวเป็น จำนวนเท่า ๆ กันต่อเนื่อง 20 รอบระยะเวลาบัญชี
รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า มาตรการนี้จะช่วยลดภาระต้นทุน เพิ่มแรงจูงใจในการลงทุน และยกระดับคุณภาพบริการในพื้นที่เมืองรอง ส่งผลโดยตรงต่อการจ้างงานและการหมุนเวียนรายได้ในชุมชนท้องถิ่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน

