ศูนย์ Anti Cyber Scam Center ร่วมตำรวจภูธรภาค 4 และภาค 8 เข้าช่วยเหยื่อที่กำลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน โดยไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อ พร้อมตามรอยจับบัญชีม้า 2 ราย ยึดเงินสด 3.8 แสนบาท สมุดบัญชี 3 เล่ม และรถยนต์ 1 คัน เตรียมคืนทรัพย์ให้ผู้เสียหายตามโครงการ “Money Cash Back”
ศูนย์ Anti Cyber Scam Center ผนึกกำลังตำรวจ ภ.4 และ ภ.8 ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ Anti Cyber Scam Center ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติงาน ตำรวจภูธรภาค 4, ตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ Anti Cyber Scam Center
พฤติการณ์ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ Anti Cyber Scam Center ได้ประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ตรวจพบข้อมูลการถอนเงินสดจากบัญชีธนาคารต้องสงสัย ซึ่งจากการตรวจสอบเชื่อว่าเป็นบัญชีม้าที่พึ่งถูกใช้เป็นบัญชีในการรับเงินจากที่ผู้เสียหายโอนเข้าไป จึงได้ทำการประสานข้อมูลได้ยังตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เดินทางไปพบผู้เสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งผู้เสียหายยังไม่ทราบว่าตนเองถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แจ้งว่ามิจฉาชีพหลอกเป็นเจ้าหน้าที่ทำให้เกิดความกลัว หลังจากพูดคุยทำความเข้าใจจึงได้อธิบายว่ากำลังโอนเงินให้กับมิจฉาชีพ และให้ผู้เสียหายหยุดโอนต่อ รวมทั้งแนะนำการแจ้งความและพาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมา ได้ทำการประสานข้อมูลได้ยังตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ถอนเงินสด เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ทำการติดตามคนร้ายที่ถือบัญชีม้าและกดถอนเงินสด จับกุมผู้ต้องหาได้ในทันที 2 รายคือนางอุบลวรรณฯ (สงวนนามสกุล) ผู้ทำหน้าที่ควบคุมการถอนเงินสดและนางบังอรฯ (สงวนนามสกุล) ผู้ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าพร้อมตรวจยึดของกลาง 3 รายการคือเงินสด(จากการหลอกลวงผู้เสียหาย)จำนวน 380,000 บาท, สมุดบัญชีธนาคารม้า จำนวน 3 เล่ม
และรถยนต์ จำนวน 1 คัน นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยที่จะทำการประสานกับผู้เสียหายเพื่อทำการคืนทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวง ตามโครงการ Money Cash Back ต่อไป
ซึ่งจากการช่วยเหลือเหยื่อในกรณีนี้ ศูนย์ Anti Cyber Scam Center ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 4 และภาค 8 ได้แสดงศักยภาพในการปฏิบัติงานเชิงรุกอย่างเข้มแข็งและรวดเร็ว เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยเหยื่อที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอกลวง ให้คำแนะนำและหยุดการโอนเงินได้ ก่อนที่ทรัพย์สินจะสูญหายไปมากกว่านี้ อีกทั้งยังได้ติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงที สะท้อนถึงความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปกป้องประชาชนจากภัยหลอกลวงออนไลน์อย่างแท้จริง
