ตำรวจห้วยขวางรวบแก๊งต่างชาติอ้างเป็นตำรวจ วิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวจีน

994

ตำรวจ สน. ห้วยขวาง จับกุม นาย Arefhossein Ghiasi สัญชาติอิหร่าน อายุ 54 ปี ที่ร่วมกับพวกอีก 2 คน อ้างเป็นตำรวจก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีน ย่านห้วยขวาง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 1 คน คือ นาย Hanekom Matthew สัญชาติแอฟริกาใต้ อายุ 42 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อ เอ็มจี สีขาว ทะเบียน 4 ขว 9448 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ก่อเหตุ โดยผู้ต้องหามีทั้งหมด 3 คนด้วยกัน

สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา มีคนร้าย 3 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ ร่วมกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีน 3 คน ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 1,1000 ดอลล่าร์ฮ่องกง เหตุเกิดบริเวณใต้สะพานลอย หน้าโรงแรมเดอะเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร

หลังเกิดเหตุไม่นาน ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน คือ นาย Hanekom Matthew สัญชาติแอฟริกาใต้ อายุ 42 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์ยี่ห้อ เอ็มจี สีขาว ทะเบียน 4 ขว 9448 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ก่อเหตุ แต่ให้การภาคเสธ โดยชุดสืบสวนได้ขยายผลไปยังเต็นท์รถแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ที่คนร้ายไปเช่ารถมาก่อเหตุ จนทราบชื่อผู้เช่ารถทั้งหมด

จากนั้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้ไปจับกุม นาย Arefhossein Ghiasi สัญชาติอิหร่าน อายุ 54 ปี ได้ที่จังหวัดชลบุรี

พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาได้เงินไป ก็นำเงินไปแลกที่ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราในย่านสุขุมวิท ซอย 3 ซึ่งตำรวจได้ติดตามนำเงินกลับมาคืนให้ผู้เสียหายได้ครบ จึงได้คืนเงินให้แก่ผู้เสียหายได้ครบทั้งหมด

สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหา จะออกตะเวนก่อเหตุในยามที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และก่อเหตุนักท่องเที่ยว มักก่อเหตุในย่านพระราม 9, ห้วยขวาง และสุขุมวิท เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สน. บางรัก เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2567 และถูกจับกุมได้เช่นกัน

เบื้องต้นดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ, แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และ เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ โอเวอร์สเตย์

ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งเป็นชายชาวเอเซีย พูดภาษาจีนไม่ชัด อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

ด้านผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองอยู่เมืองเซินเจิ้น ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดอีเวนท์และคอนเสิร์ต โดยปกติแล้วมาเที่ยวเมืองไทยเป็นประจำทุกเดือน เพราะชอบเมืองไทย ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่เคยประสบเหตุมาก่อน แต่ก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหา และนำคืนมาคืนให้ ซึ่งทำให้ยิ่งรู้สึกเชื่อมั่นในความปลอดภัย และจะมาเที่ยวเมืองไทยอีก โดยมีกำหนดเดินทางกลับประเทศจีนในวันพรุ่งนี้ และจะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกในวันที่ 6 พฤศจิกายนนี้