กรมทรัพยากรธรณีเผยข้อมูลล่าสุด ร่วมกับรายงาน USGS และงานวิจัยมหาวิทยาลัยไทย พบกว่า 15–20 จังหวัดทั่วประเทศมีศักยภาพด้าน “แร่แรร์เอิร์ธ” หรือแร่หายากที่สำคัญต่อเทคโนโลยีอนาคต ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน และใต้ แนะชาวบ้านควรรู้สิทธิในที่ดินและผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อนเปิดทางสำรวจ
กรมทรัพยากรธรณี (DMR) ร่วมกับรายงาน USGS Mineral Yearbook (Thailand) และข้อมูลวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยไทย เผยรายชื่อจังหวัดที่มีการสำรวจหรือพบศักยภาพของ “แร่แรร์เอิร์ธ” (Rare Earth Elements – REEs) ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง
แหล่งสำรวจสำคัญกระจายทั่วประเทศ ได้แก่
ภาคเหนือ: อุตรดิตถ์ แพร่ พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย และตาก
ภาคกลาง: อุทัยธานี กาญจนบุรี เพชรบูรณ์
ภาคอีสาน: เลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ สกลนคร และนครพนม
ภาคใต้: ภูเก็ต พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี
พื้นที่เหล่านี้พบร่องรอยของแร่โมนาไซต์ ซีโนไทม์ เซอิทรีม และนีโอไดเมียม ซึ่งเป็นธาตุหายากที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีอนาคต
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีระบุว่า พื้นที่ทั้งหมด “ยังอยู่ในขั้นสำรวจเบื้องต้น” และยังไม่มีการขุดหรือให้สัมปทานใด ๆ ทั้งสิ้น โดยชี้ว่าหากมีบริษัทต่างชาติขอเข้ามาสำรวจเพิ่มเติมในอนาคต ชาวบ้านควรตรวจสอบสิทธิ์ในที่ดิน ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และร่วมแสดงความเห็นในกระบวนการชุมชน
การรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทรัพยากรใต้ดินในพื้นที่ตนเอง จึงถือเป็น “อำนาจต่อรองสำคัญ” ของท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: กรมทรัพยากรธรณี (2566)
USGS Mineral Yearbook: Thailand (2023)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์ฯ, และ BEST Journal

