ไม้พื้นถิ่นผู้ภักดีต่อแผ่นดินไทย “ตะแบกเลือด” ไม่เพียงงามสง่าท่ามกลางผืนป่า แต่ยังเป็นขุมทรัพย์แห่งธรรมชาติและภูมิปัญญาโบราณ สืบทอดคุณค่าทั้งทางกายและใจจากรุ่นสู่รุ่น

“ตะแบกเลือด” ไม้มีค่าน่าปลูก คู่ชีวิตป่าเต็งรังไทย
ในป่าเต็งรังที่ร้อนแล้งของเมืองไทย ยังมีต้นไม้ชนิดหนึ่งยืนต้นอย่างสง่างามท้าทายแดดฝน — “ตะแบกเลือด” (Terminalia mucronata Craib & Hutch.) ไม้ผลัดใบสูงใหญ่ถึง 20 เมตร ที่เปลือกต้นภายนอกเรียบและลอกเป็นแผ่นสีเทาน้ำตาล แต่ซ่อนความงดงามภายในด้วยเนื้อเปลือกสีน้ำตาลแดงคล้ายเลือดสด จึงเป็นที่มาของชื่ออันทรงเอกลักษณ์
ใบของตะแบกเลือดมีขนสั้นนุ่ม เมื่อผลัดใบใหม่จะเผยสีสันอ่อนโยนเหมือนผืนป่ากำลังหายใจอีกครั้ง ส่วนใบแก่กลับแดงจัดราวกับฤดูหนาวกำลังแต้มสีบนยอดไม้ เป็นภาพธรรมชาติที่สะกดสายตาผู้พบเห็น
เมื่อถึงฤดูผลัดใบ ดอกสีครีมขนาดเล็กจะทยอยผลิบานเป็นช่อยาว แทรกอยู่ท่ามกลางใบอ่อน เปล่งประกายอ่อนโยนกลางแสงแดด ก่อนจะกลายเป็นผลปีกคู่โบยบินไปกับสายลม เพื่อขยายชีวิตรุ่นใหม่สู่ผืนดินอื่น

คุณค่าจากธรรมชาติและภูมิปัญญา
นอกจากความงาม “ตะแบกเลือด” ยังขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งของเนื้อไม้ ทนทานต่อปลวกและสภาพอากาศ คนโบราณนิยมใช้ทำโครงสร้างบ้าน ต่อเรือ หรือแม้แต่ทำรถในสมัยก่อน เพราะเชื่อมั่นในพลังแห่งความคงทนของไม้ชนิดนี้
ภูมิปัญญาชาวบ้านยังนำส่วนต่าง ๆ ของต้นมาใช้เป็นสมุนไพร เปลือกช่วยแก้อาการบิดมูกเลือด ท้องร่วง สมานแผล และปิดธาตุ ส่วนเนื้อไม้และแก่นใช้บำรุงโลหิต ขับระดู แก้ธาตุพิการ และบำรุงกำลัง เป็นพืชที่ผสมผสานคุณค่าทั้งทางร่างกายและจิตใจไว้อย่างสมบูรณ์

ผู้พิทักษ์ผืนป่าไทย
ตะแบกเลือดพบได้ทั่วไปในพื้นที่ราบจนถึงพื้นที่ลาดชันที่มีความสูงไม่เกิน 1,000 เมตร โดยเฉพาะในป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้งของไทย ถือเป็นไม้พื้นถิ่นที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ ช่วยเพิ่มความหลากหลายของพันธุ์ไม้ และสร้างร่มเงาให้ผืนดิน
ในวันที่โลกต้องการความยั่งยืนมากกว่าที่เคย “ตะแบกเลือด” จึงไม่ใช่แค่ไม้ป่าธรรมดา แต่คือ “ชีวิตที่ยืนยง” แห่งภูมิปัญญาไทย เป็นทั้งมรดกธรรมชาติและแรงบันดาลใจในการปลูกเพื่ออนาคตที่มั่นคงของผืนป่าไทย
แหล่งอ้างอิง:
หอพรรณไม้ Forest Herbarium – BKF

