“ธนกร” แจง ถอนอายัดเหล็ก “ซิน เคอ หยวน” เฉพาะที่ตรวจผ่าน อีก 2,690 เส้นยังอายัด-ดำเนินคดี

474

กรุงเทพฯ, วันที่ 24 ตุลาคม – นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการถอนอายัดผลิตภัณฑ์เหล็กของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ว่าการถอนอายัดเหล็กบางส่วนเกิดขึ้นรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งตนยังไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยวันที่มีการถอนอายัดส่วนแรก คืนผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐาน กองแรก 16,950 เส้นมีผลตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน ขณะที่ตนได้รับการโปรดเกล้าฯ ในวันที่ 19 กันยายน และเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 24 กันยายน การตัดสินใจหรือการดำเนินการใด ๆ ก่อนวันที่ 19 กันยายน 2568 จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีชุดเดิม ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการในเรื่องนี้แต่อย่างใด

นายธนกรกล่าวว่า ขอย้ำว่า สาเหตุการอายัดเหล็กทั้งหมดของซิน เคอ หยวน สืบเนื่องจากเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้ภายในโรงงาน เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ซึ่งมีการเข้าเก็บตัวอย่างตรวจสอบในวันรุ่งขึ้น (19) ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่ใช่ “เหล็กจากเหตุการณ์ตึกถล่ม” ตามที่มีความสับสนในสื่อ

โดยกองที่ยังอายัด/ดำเนินคดี (ผลตก): สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้อายัดผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นไว้ จำนวน 2,690 เส้น เมื่อ 9 มกราคม 2568 เนื่องจากผลการตรวจสอบพบว่า ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งในส่วนประกอบทางเคมี (ธาตุโบรอนเกิน) และส่วนสูงของบั้ง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่กองที่ถอนอายัด (ผลผ่าน) : สมอ. ได้ดำเนินการคืนผลิตภัณฑ์เหล็กข้ออ้อยที่ผ่านการตรวจสอบรวมทั้งสิ้น 41,635 เส้น (อายัดเมื่อ 9 มกราคม 2568) ซึ่งการคืนผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ครั้ง คือ 16,950 เส้น เมื่อ 12 ก.ย. 2568 และ 24,685 เส้น เมื่อ 30 ก.ย. 2568 เนื่องจากผลการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวอย่างที่เก็บไป เป็นไปตามมาตรฐาน

“ผมขอเน้นย้ำให้พี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการมั่นใจว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การกำกับดูแลของผม จะดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใสและยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว

ทั้งนี้ขอยีนยีนว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนมีการตรวจสอบทางเทคนิคจากหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ อย่างเช่น สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย (สลท.) ซึ่งมีภารกิจในการให้บริการทดสอบและวิเคราะห์โลหะตามมาตรฐาน เพื่อยืนยันคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างแม่นยำและเป็นไปตามหลักวิชาการ และยืนยันว่าการถอนอายัดในกรณีนี้ เป็นการถอนอายัดเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผ่านหรือเป็นไปตามเกณฑ์การตรวจสอบแล้วเท่านั้น เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจสุจริต ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่ว่า “ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้ประกอบการ หากผลิตภัณฑ์นั้นถูกต้องตามมาตรฐาน”

นายธนกรกล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจะเดินหน้าปราบปรามเหล็กเถื่อนและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเด็ดขาด และในขณะเดียวกัน ก็จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกคนที่ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรม และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนอย่างสูงสุด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างสมบูรณ์ และเพื่อความมั่นใจสูงสุดของประชาชน จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง