นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้รับมอบหมายจากผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้รับหนังสือจากนายภัทรพงศ์ ศุภักษร (ทนายอั๋น) ที่เรียกร้องให้รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หยุดการปฏิบัติหน้าที่ทั้งคณะ เนื่องจากมีการสงสัยหลายประการ ทั้งการแต่งตั้งบุคคลเกี่ยวข้องคดีสำคัญ การโยกย้ายข้าราชการระดับสูง และความล้มเหลวในการจัดการปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ จนขาดความไว้วางใจ
นายวิโรจน์ ยืนยันว่า พรรคประชาชนติดตามการทำงานของรัฐบาลและตรวจสอบอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกรณีสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นอาชญากรรมระดับโลกที่พัวพันถึงการค้ามนุษย์และการใช้แรงงาน โดยได้มอบหมาย สส. ในพรรคให้ใช้กลไกของรัฐสภาตรวจสอบทั้งเรื่องการโยกย้ายข้าราชการและคดีการเมืองอย่างเต็มที่ต่อไป
สำหรับประเด็นการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายวิโรจน์ ระบุว่า ยังอยู่ในเงื่อนไขการพิจารณาของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรัฐบาลยังไม่ดำเนินการที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ในการปราบปรามสแกมเมอร์ หรือมีข้อสงสัยว่าอาจมีความเกี่ยวพัน/สนับสนุนการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้สแกมเมอร์จากกัมพูชาอาละวาด อาจนำมาสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้
นายวิโรจน์ ยังได้เรียกร้องให้นายอนุทิน ชี้แจงและดำเนินการ 2 เรื่องต่อประชาคมโลก คือ 1) มาตรการภายในประเทศ ต้องเร่งให้ ปปง., ก.ล.ต., ตำรวจไซเบอร์ สืบสวนขยายผล และออกกฎระเบียบเพื่อเปิดเผยเส้นทางการเงินและตัวตนผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง พร้อมยืนยันว่าเครือข่ายสแกมเมอร์ต่างชาติไม่สามารถดำเนินการได้ลำพังในไทย “ผมยืนยันว่าจะต้องมีเครือข่ายของประเทศไทย ซึ่งอาจเป็นนายทุนของคนไทยหรืออาจเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนหรือมีส่วนรู้เห็นด้วย” จึงต้องเร่งยึดอายัดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดิน
และ 2) ความร่วมมือกับนานาชาติ ต้องเร่งลากคอขบวนการคนไทยที่เกี่ยวข้องออกมา ก่อนที่สหรัฐอเมริกาและนานาประเทศจะเปิดเผยรายชื่อเหล่านั้นเอง ซึ่งจะทำให้ไทยถูกทั้งโลกมองว่า “เราคือประเทศเครือข่ายสแกมเมอร์เสียเอง” สร้างความเสียหายต่อเกียรติภูมิและเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

