“อนุทิน” ประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 9/2568 เห็นชอบแต่งตั้งนอกวาระผู้ช่วย ผบ.ตร.–ผบช.–รองผบช. หลังตำแหน่งว่างจากโครงการปรับกำลังพล รุ่นที่ 27 ย้ำทุกตำแหน่งมีความจำเป็นเร่งด่วน ยึดหลักอาวุโส โปร่งใส ไม่โยกหมุนเวียน

วันที่22ตุลาคม 2568 ที่ ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 9/2568 โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธาน ก.ตร. พร้อมด้วยคณะกรรม ก.ตร. เข้าร่วมการประชุม ทั้งในห้องประชุมและผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ รวม 16 คน / ขณะที่มีคณะกรรมการที่ลาการประชุม 3 ราย ประกอบด้วย นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขานุการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.), พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ โดยก่อนเข้าประชุมนายกรัฐมนตรีได้เดินไปยืนบนแท่น เพื่อรับความเคารพจากกองเกียรติยศ พร้อมเดินตรวจแถวกองเกียรติยศ

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งที่ 9/2568 มีเรื่องเพื่อทราบตามระเบียบปฏิบัติประจำของการประชุมประจำเดือน แต่เรื่องที่สื่อมวลชนให้ความสนใจคือการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอก.ตร. เพื่อขอความเห็นชอบคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้ช่วยผบ.ตร. และรองจเรตำรวจแห่งชาติลงมาถึงผู้บังคับการ นอกวาระประจำปี 2568 เนื่องจากมีเหตุผลความจำเป็นว่าข้าราชการ 3 ราย เข้าโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลรุ่นที่ 27 คือ พล.ต.ท. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองจเรตำรวจแห่งชาติ (รอง จตช.) ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7), พล.ต.ต. วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองจเรตำรวจ(รอง จตร.) ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) , และ พล.ต.ต. นิรันดร์ ทองฤทธิ์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 (ผบก.ศพฐ.3) ซึ่งมีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้มีตำแหน่งว่างระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) 1 ตำแหน่ง, ผู้บัญชาการ (ผบช.) 1 ตำแหน่ง, รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช. ) 1 ตำแหน่ง

โดย 3 ตำแหน่งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นว่าเป็นตำแหน่งสำคัญ หากไม่มีการคัดเลือกแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าวจะเกิดความเสียหายกับทางราชการ ก็เลยขอความเห็นชอบในการคัดเลือกแต่งตั้งนอกวาระ ซึ่งที่ประชุมก.ตร. ให้ความเห็นชอบ ลำดับต่อไปจะมีการคัดเลือกแต่งตั้งทดแทน โดยไม่มีตำแหน่งอื่นเพิ่มเติมหรือหมุนเวียนแต่อย่างใด
พล.ต.ท.ยิ่งยศ ระบุว่า สำหรับตำแหน่งรองจเรตำรวจแห่งชาติ ทางจเรตำรวจแห่งชาติได้ชี้แจงในที่ประชุมว่างานของจเรตำรวจที่จะต้องตรวจสอบมีหลาย 1,000 เรื่อง รองจเรตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่ไปดูแลตรวจสอบงานที่จเรตำรวจแห่งชาติมอบหมาย หากขาดไปการขับเคลื่อนคงจะมีปัญหา และเช่นเดียวกันกับผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน การตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานหรือเหตุผลทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อประกอบสำนวนคดีหากไม่มีหัวหน้าหน่วยในการขับเคลื่อนหน่วยก็คงไม่ราบรื่น และมีหลายเหตุผล ที่ประชุมถกเถียงกันและเห็นตรงกันว่าเป็นตำแหน่งที่มีความจำเป็น

สำหรับอดีตที่ไม่มีการแต่งตั้งนอกวาระ เนื่องจากการแต่งตั้งวาระปีที่ผ่านมา มีการแต่งตั้งล่าช้า ผู้ที่เข้าโครงการเดือนตุลาก็เข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งในวาระปกติ ไม่มีผลกระทบแต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่การแต่งตั้งเขาวงรอบปกติ และการแต่งตั้งในครั้งนี้จะยึดหลักอาวุโส
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมาประชุมมีแค่เรื่องตามระเบียบวาระการประชุมเท่านั้น ไม่มีวาระอื่นส่วนเรื่องสแกมเมอร์หรือเรื่องอื่นทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวานนี้แล้ว และเป็นนโยบายเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล

