ท่ามกลางสายหมอกบางยามเช้าและเสียงลมพัดผ่านยอดไม้ “อุทยานแห่งชาติขุนแจ” จังหวัดเชียงราย ยังคงเปล่งประกายด้วยความงดงามของธรรมชาติที่สมบูรณ์และบริสุทธิ์ ภารกิจการสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลบน ดอยลังกาหลวง ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า จากอุทยานแห่งชาติขุนแจ และอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ร่วมกับทีม Thai Trek Trail ไม่เพียงเป็นการเดินทางเพื่อสำรวจเส้นทางเท่านั้น แต่ยังเป็นภารกิจแห่งหัวใจ เพื่อปกป้องและสืบสานมรดกธรรมชาติของแผ่นดินเหนือให้อยู่คู่ผืนป่าตลอดไป
อุทยานแห่งชาติขุนแจ ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ได้รับชื่อตาม “น้ำตกขุนแจ” ที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ สะท้อนประกายแสงแดดยามเช้าอย่างงดงาม ที่นี่เป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของภาคเหนือ และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
ภูมิประเทศของอุทยานมีทั้ง หุบเขาลึกและสายน้ำเชี่ยวกราก ที่เกิดจากการกัดเซาะตามธรรมชาติ ตลอดเส้นทางเดินสำรวจจะพบความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศจากพื้นที่ต่ำที่เป็น ป่าเบญจพรรณและป่าไผ่ ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไปเป็น ป่าดิบเขาเขียวชอุ่ม เมื่อระดับความสูงเพิ่มขึ้นกว่า 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพแวดล้อมเหล่านี้กลายเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด ทั้ง เก้ง หมูป่า ชะมด เหยี่ยวรุ้ง นกแซงแซวสีเทา และสัตว์เลื้อยคลานหายากอย่าง งูจงอางและกิ้งก่าบิน ซึ่งล้วนสะท้อนถึงความสมดุลของธรรมชาติที่ยังคงดำรงอยู่
เบื้องหลังภาพธรรมชาติอันงดงามเหล่านี้ คือความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ที่ต้องเผชิญทั้งความเหน็บหนาว ความชันของเส้นทาง และความท้าทายของพื้นที่ป่าลึก เพื่อเฝ้ารักษาทุกต้นไม้ ทุกสายธาร และทุกชีวิตในผืนป่าแห่งนี้ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
ดอยลังกาหลวงจึงไม่เพียงเป็นจุดหมายของนักเดินทางผู้รักธรรมชาติ หากยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมแรงร่วมใจของผู้พิทักษ์ผืนป่า และผู้คนที่ตระหนักถึงคุณค่าของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด
“ธรรมชาติไม่เพียงให้ความงามแก่สายตา แต่ยังสอนให้เรารู้จักความอ่อนโยน ความอดทน และการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล”
ที่มา: อุทยานแห่งชาติขุนแจ จังหวัดเชียงราย
