“ธนกร” ตรวจเยี่ยม “ซีเกท” ตามความคืบหน้าพัฒนาอุตฯ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หนุนไทยก้าวสู่ฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงของโลก

756

สมุทรปราการ, วันที่ 16 ตุลาคม – นายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม เดินทางไปที่ บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ โดย นายธนกร กล่าวว่า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทย ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 โดยเป็นอุตสาหกรรมที่มีการบูรณาการเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรม เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ให้มีความชาญฉลาด สามารถต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมอื่น เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ การแพทย์อัจฉริยะ และเกษตรกรรมแม่นยำ

นายธนกร กล่าวว่า ที่ผ่านมา บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยในหลายด้าน ทั้งการยกระดับเทคโนโลยี Smart Electronics การพัฒนาทักษะแรงงานให้พร้อมรับยุคดิจิทัล ตลอดจนการส่งเสริมพลังงานสะอาดและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังเป็นแหล่งสร้างงานและรายได้ให้แก่ประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการกว่า 4,000 คน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นและยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานไทยอย่างยั่งยืน

“ขอชื่นชม บริษัท ซีเกทฯ ที่มีส่วนในการสร้างงาน สร้างอาชีพในพื้นที่ ช่วยยกระดับมาตรฐานแรงงานให้ทัดเทียมนานาประเทศ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการเรียนรู้กับของพนักงาน ที่ให้พนักงานเดิมมีการปรับเปลี่ยนจากงานที่ทำโดยคนไปสู่ระบบหุ่นยนต์ทำให้ได้เพิ่มศักยภาพการทำงาน เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับพนักงานด้วย” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว

โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะผ่าน แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2566–2570) โดยส่งเสริมการพัฒนาตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นต้น การยกระดับห้องปฏิบัติการทดสอบมาตรฐาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี ไปจนถึงการสร้างตลาดภายในประเทศสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ

 “ผมเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะของไทยมีศักยภาพสูง และคนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ไทยจะสามารถก้าวขึ้นเป็นฐานการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงของโลกได้อย่างมั่นคง” นายธนกร กล่าวทิ้งท้าย