“หมอเหรียญทอง” แถลงด่วน! รพ.มงกุฏวัฒนะ​ งดรับผู้ป่วยนอกบัตรทองชั่วคราว หลัง สปสช.ค้างหนี้กว่า 80 ล้าน – ย้ำผู้ป่วยในยังรักษาต่อได้ตามปกติ

364

พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฏวัฒนะ ตั้งโต๊ะแถลงยืนยัน งดให้บริการเฉพาะ “ผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทอง” ชั่วคราว ระหว่างรอ สปสช.ชำระหนี้ค้างกว่า 80 ล้านบาท พร้อมเปิดโครงการ “บัตรทองแพลตินัมมงกุฏวัฒนะ” ให้ผู้ป่วยเลือกชำระค่ารักษาในราคาพิเศษเทียบเท่ารัฐ เผยหากเคลียร์หนี้ได้พร้อมกลับมาให้บริการตามเดิม เตรียมฟ้อง ม.157 เอาผิดผู้บริหาร สปสช. ปมละเว้นหน้าที่

พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ตั้งโต๊ะแถลงด่วน กรณีทางโรงพยาบาล จะมีการหยุดให้บริการบัตรทอง ในระหว่างรอช้ำระหนี้ค้าง จาก สปสช.ทั้งนี้ขอยืนยัน ว่ากลุ่มผู้ป่วยใน ที่เป็นสิทธิ์ทองยังคงได้รับการรักษาต่อเนื่องตามปกติ การงดรับบริการเป็นเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยนอก เท่านั่นซึ่งจะมี ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบประมาณ 47,000 คน โดยที่ทางโรงพยาบาลได้สำรวจความคิดเห็นพบว่าผู้ป่วยไม่ต้องการย้ายสิทธิ์สถานพยาบาล เพราะต้องเดินทางไกล /หรืออาจต้องใช้ใบส่งตัว ในระหว่างนี้ ทาง รพ. จะจัดโครงการ บัตรทองแพลตินัม มงกุฏวัฒนะ คือ ผู้ป้วยนอกสิทบัตรทองหากต้องการเข้ารับบริการสามาถเลืกชำระเงินค่าบริการรักษา ในราคา รพ.รัฐ

แต่หากผู้ป่วยไม่สามารถชำระเงินได้ ทาง รพ.จะตั้งหน่วยบริการ เพื่ออำนวยความสะดวก เช่นจะเตรียม เอกสารประวัติการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยนำไปรักษาต่อที่ รพ.อื่น แต่หากเป็นผู้ป่วยโรคร้ายแรง ยังรักษาต่อได้ เช่น ฟอกไต /ผู้ป่วยพิการ /โรคเอดส์

จากประวัติการรับบริการกลุ่มผู้ป่วยนอกสิทธิ์บัตรทอง ที่เข้ามารับบริการ รพ.มงกุฏวัฒนะประมาณ500- 1000 คน /วัน คาดว่าครึ่งหนึ่งจะสามารถเลือกชำระเงินเองได้ แต่อีกครึ่งอาจต้องไปรักษาที่อื่น และจากผู้ป่วยที่มีสิทธิ์กับ รพ.มงดุฏวัฒนะ คาดกว่า 10,000 คน อาจขอย้ายสิทธิ์ เนื่องจากไม่สามารถชำระเงินได้ แต่ก็อาจต้องรับภาระค่าเดินทางไป รพ. ที่ไกลกว่า

สถานการณ์เกิดขึ้นมาตั่งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่พบว่า สปสช.ปรับเงื่อนไขการชำระเงิน เป็นแบบ Point system จึงชะลอการรับส่งต่อผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทองมาตลอด

ทางออกเรื่องนี้ ยังยืนยันต้องให้ สปสช. สรุปหนี้ให้ชัด หากไม่สามารถชำระยอดรวมทั้งหมดได้ ก็ขอผ่อนชำระได้ เคลียร์หนี้จบ ก็สามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติ

ขณะนี้ ยังมียอดหนี้ คงค้างประมาณ 80 ล้าน โดย สปสช.เป็นคู่สัญญากับ รพ.มงกุฏวัฒนะ ต้องชำระเองหนี้ทุกก้อน ไม่ใช่ให้ไปตามหนี้จากคลินิก

ในฐานะผู้บริหารโรงพยาบาลขนาดใหญ่
มองระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติขณะนี้ อยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงในระบบสาธารณสุข ที่รัฐบาลต้องรีบแก้ไข ระบบบัตรทองไม่ล่ม แต่มีรอยร้าว ซึ่งหากไม่รีบแกัไขก็อาจถล่มได้

สำหรับตนยังรักในระบบ สปสช. แต่มีความรังเกียจผู้บริหาร สปสช. บางคน ปัจจัยหนึ่งที่มองว่า เกิดปัญหาการค้างชำระหนี้กันต่อเนื่องก็มาจาก งบประมาณไม่เพียงพอ โดยงบ ที่สปสช.ได้รับจัดสรร เป็นงบปลายปิด ซึ่งในปัจจุบันมองว่าอาจไม่เพียงพอกับสถานการณ์การป่วยที่มากขึ้น และยังมีนโยบายใหม่จากนักการเมืองเกิดขึ้นกลางคั้น เพิ่มสิทธิ์ต่างๆ จนเกิดเป็นการผลักภาระให้สถานพยาบาล ผู้บริหารสปสช.ต้องรู้จักปฏิเสธบ้าง เพราะงบมีเท่านี้

และทราบว่า งบ ที่ สปสช.ขอเพิ่ม ล่าสุด 8000 ล้านบาท นั่นทาง สปสช.ไม่ได้จะนำมาจ่ายหนี้ให้ รพ.มงกุฏวัฒนะ เพราะมีผู้บริหาร สปสช.จะกลั่นแกล้งตน และจะไม่จ่ายหนี้

จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อพูดคุยใดๆจาก สปสช. ส่วนหนึ่งคือทำใจ ว่ายอดหนี้ที่เหลือ อาจจะไม่ได้คืน โดยแผนต่อจากนี้คือ เตรียม ดำเนินการทางกฏหมาย มาตรา157 ประมวลกฏหมายอาญา กับผู้บริหาร สปสช. ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และจะฟ้องคดีแพ่ง ซึ่งตอนนี้รอหลักฐาน สรุปค่าใช้จ่ายของ ปี 67 อยู่