กรุงเทพฯ, วันที่ 14 ต.ค. – นางเกษร กำเหนิดเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงแนวทางในการขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยในปี 2569 ว่าจะสอดคล้องตามนโยบาย “ไท ไทย” ของนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วธ. ที่มุ่ง“สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคม ผ่านงานสำคัญใน 4 ด้าน คือ 1.การเสริมพลังการเทิดทูนสถาบันหลักของชาติและสืบสานสร้างสรรค์ทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน 2.การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยมิติทางวัฒนธรรม ตลอดจนพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมวัฒนธรรม ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก 3.พัฒนาสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ และการสร้างสรรค์งานด้านศิลปวัฒนธรรม โดยพัฒนาหอศิลป์และแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมทั่วประเทศ พัฒนาเมืองศิลปะ จัดเทศกาลศิลปะแห่งกรุงเทพ และ 4.พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการงานศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมสู่ระดับสากล

นางเกสร กล่าวว่า สศร.จะส่งเสริมสนับสนุน ศิลปิน องค์กรเครือข่ายให้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ อาทิ การเข้าร่วมในเทศกาลศิลปะร่วมสมัยทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Phuket 2025 ซึ่งจะเปิดงานในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ และจัดต่อเนื่องไปจนถึง 30 เมษายน 2569 เป็นเวลาถึง 5 เดือน คาดการณ์ว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะร่วมสมัยให้เข้าชมงาน กระตุ้นการสร้างงานและเศรษฐกิจในพื้นที่และประเทศไทย รวมทั้งการคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพในครั้งถัดไป ซึ่งถือเป็นเทศกาลศิลปะร่วมสมัยสำคัญที่ สศร. ใช้เป็นกลไกขับเคลื่อนมิติของศิลปวัฒนธรรมทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์ของประเทศลงไปสู่ภูมิภาค

นอกจากนี้ สศร. มีกองทุนส่งเสริมศิลปะร่วมสมัยให้การอุดหนุนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งจะเป็นทุนสำคัญเพื่อให้เครือข่ายทั้งศิลปินและผู้สนใจงานศิลปะเข้ามาขอรับการสนับสนุนในการสร้างสรรค์ โดยสามารถติอตามข่าวสารการสนับสนุนเหล่านี้ผ่าน www.ocac.go.th รวมทั้งเพจเฟ๊ซบุ๊ค สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
“ในปี 2569 การทำงานของ สศร. จะไม่ดำเนินงานเพียงผู้เดียว แต่จะใช้การประสานงานความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งเครือข่ายศิลปิน เครือข่ายศิลปวัฒนธรรม ผู้ประกอบการและชุมชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สร้างระบบนิเวศทางศิลปะ เสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคม ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทยในเวทีนานาชาติ” ผอ.สศร. กล่าว

