รัฐสภา, วันที่ 14 ต.ค. – พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 3 ร่าง ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย 3 พรรคการเมือง ว่าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ยืนยันหลักพื้นฐาน ในระบอบประชาธิปไตยว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ซึ่งสมาชิกรัฐสภากำลังจะร่วมกันจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมีประชาธิปไตยโดยตรง คือ มีการทำประชามติสอบถามเจ้าของอำนาจอธิปไตย ซึ่งปกติจะต้องไม่ซับซ้อนและต้องไม่สับสน แต่สิ่งที่กังวลคือจะมีคำถามประชามติเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงรวมเข้ามาด้วย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนคิดว่ามีการทำลายหลักประชาธิปไตยอย่างมาก เพราะเกิดปรากฏการณ์ MOA ที่สร้างรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยฝ่ายค้านเสียงข้างมากมีเจตนาจะไม่ให้รัฐบาลนี้ไปบริหารประเทศ แต่ให้ไปแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีคนเข้าใจว่ารัฐบาลนี้มีความสนิทกับ สว. ประมาณ 138 คน หรือ 2 ใน 3 ของสว.ทั้งหมด 200 คน ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 จำเป็นจะต้องมีเสียง สว. 1 ใน 3 หรือ 66 คน วันนี้จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ตนได้ยินเพื่อน สว. ว่าเราไม่ควรคืนทางตันให้กับประชาชน แต่เราอยากมอบมรดกที่ดีให้กับประชาชน
“8 ปีที่ผ่านมา รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันของเรามีโครงสร้างที่มากเกินไป ในรัฐธรรมนูญปี 60 มีรัฐอิสระ ทั้งวุฒิสภา องค์กรอิสระ และองค์กรตุลาการที่มากเกินไป จนสามารถชี้ชะตากรรมของนักการเมือง และพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมาได้ ที่น้อยเกินไปคืออำนาจของประชาชน รัฐบาลเสียงข้างมากถูกจำกัดอำนาจ ไม่สามารถผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชนได้ และที่ไม่มีเลยคือไม่มีกลไกการตรวจสอบกองทัพ องค์กรอิสระหรือการปฏิรูปศาลฯ ทั้งที่หน่วยงานเหล่านี้ใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่กลับไม่มีการตรวจสอบความโปร่งใสหรือความรับผิดชอบ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือทำให้ประเทศอยู่ภายใต้กติกาที่ไม่สมดุล ระหว่างอำนาจของประชาชนกับอำนาจของชนชั้นนำ” หัวหน้าพรรคประชาชาติกล่าว
พ.ต.อ.ทวี อภิปรายว่า ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าการเมืองการปกครอง เป็นเรื่องของชนชั้นนำและองค์กรอิสระ ไม่ใช่เรื่องของประชาชน เสียงประชาชนจะมีความหมายแค่วันเลือกตั้ง มีความเหลื่อมล้ำเรื่องคุณภาพชีวิต เรามีคำหนึ่งคือ “มาตรฐานทางจริยธรรม” ที่ค่อนข้างเป็นนามธรรมสามารถตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้ ซึ่งเราจำเป็นต้องคืนความสมดุลให้กับประชาชน
เขากล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดคือกรรมาธิการที่จะจัดตั้งไม่ควรใช้เวลาเกิน 45 วัน วันนี้เราต้องการรัฐธรรมนูญที่ดี ที่ตอบสนองบริบทของคนไทย และสามารถตอบรับความเป็นสากลได้ จะต้องมีการแบ่งปันทรัพยากร ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดินให้กับประชาชน รัฐธรรมนูญที่ผ่านมาไม่ได้พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจเลย รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเรายังไม่ได้ร่างและเรากำลังจะร่าง เมื่อเรายังไม่ได้ร่าง รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดก็ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งการจะเกิดได้อยู่ที่พวกเราเปิดประตูและไปเชื่อมต่อให้กับประชาชนได้ร่วมกันแสดงความเห็น ซึ่งรัฐสภาชุดนี้จำนวนหนึ่งคงได้กลับเข้ามา อีกจำนวนหนึ่งคงไม่ได้กลับเข้ามา คงไม่ได้จัดทำรัฐธรรมนูญที่ไปถึงวาระ 3
“คิดว่ารัฐบาลชุดหน้าก็ไม่ควรอยู่นาน เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ก็ควรยุบสภาเพื่อให้ใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งเราอยู่ในภาวะเรียกร้องโหยหามานาน ผมจึงขอเรียกร้องสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ของทั้ง 3 ร่าง “พันตำรวจเอกทวี กล่าว
