วันที่ 14 ต.ค. 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 808 ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีดำอ.1729/2562 ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นจำเลยในข้อหาความผิดฐาน หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

กรณีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 นพ.ระวี ได้แถลงข่าว การเข้าร่วมสังกัดกลุ่ม 11 พรรคการเมืองที่แสดงเจตนาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดย นพ.ระวี กล่าวตอนหนึ่งในทำนองว่า การต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้ อาจมองได้ว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายที่เอาสถาบัน กับฝ่ายไม่เอาสถาบัน ซึ่งสมาชิกพรรคมีมติให้เราเลือกข้างที่รักษาสถาบันเท่านั้น พรรคพลังธรรมใหม่ จึงต้องประกาศจุดยืนตามเสียงข้างมากของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และถ้อยคำอื่นๆ
การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ สมาชิกพรรค และพรรคการเมืองอื่นรวม 7 พรรคซึ่งเรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่เป็นแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ว่าเป็นฝ่ายไม่เคารพเทิดทูนสถาบัน ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 326,328 จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง นพ.ระวี เนื่องจากจำเลยกล่าวข้อความดังกล่าวเพื่อชี้แจงให้ทราบถึงเหตุผลการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ว่าเพราะมีความเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และแสดงจุดยืนว่าสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่จะปกป้องและรักษาสถาบันกษัตริย์ โดยเป็นกล่าวข้อความในลักษณะกว้าง ๆ ไม่ได้ระบุชื่อถึงโจทก์
ศาลอุทธรณ์ประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า จากคำเบิกความของพยานและหลักฐานจากทั้ง2ฝ่าย ระบุว่าที่จำเลยกระทำ จำเลยกล่าวถึงกว้าง ๆ โดยไม่ได้ระบุถึงชื่อตัวบุคคลหรือโจทก์และการจับมือในครั้งนั้นเป็นการจับขั้วของพรรคการเมืองต่าง ๆ และไม่ได้กล่าวว่าโจทก์และโจมตีพรรคการเมืองของโจทก์ว่าเป็นฝ่ายไม่เอาสถาบัน เป็นความเข้าใจของโจทก์แต่เพียงเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการหมิ่นประมาท อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามาศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน ยกฟ้อง ตามศาลชั้นต้น
ด้าน นพ.ระวี เปิดเผยภายหลังจากฟังคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืน ยกฟ้อง ในคดีที่ตนถูกฟ้องว่าไปหมิ่นประมาท พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โดยในช่วงนั้นเป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรคการเมืองที่โยงเรื่องสถาบัน ซึ่งสมาชิกของพรรคพลังธรรมใหม่ส่วนมากยืนอยู่ข้างฝั่งปกป้องสถาบัน จึงไปอยู่ฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการจัดตั้งฝ่ายรัฐบาล แต่ในคำฟ้องระบุว่า ตนมีการแสดงความคิดเห็นว่าในกลุ่ม 7 พรรคที่อยู่ฝ่ายค้านนั้นคือพรรคการเมืองที่ไม่เอาสถาบันเป็นข้อกล่าวหา แต่เราไม่ได้เจตนาเช่นนั้น ทั้งนี้ศาลได้พิพากษาแล้วว่าเราไม่ได้โจมตีพรรคเสรีรวมไทย ถือว่าจบไป และพวกตนคงไม่ฟ้องกลับ เพียงรอแต่ว่าฝั่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะยื่นฎีกาหรือไม่ ตนก็ต้องเขียนฎีกาสู้ ขึ้นอยู่กับว่าทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะจบหรือไม่

