สืบพระราชวังรวบชาวจีนแสบฉกทองหนัก 2 บาทในร้านทอง ถูก ตร.ออกหมายจับ หลักฐานกล้องชัด อ้างไม่ได้ทำ แต่ยอมจ่ายค่าทองคืน
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น.พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผบก.น.6 และ พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง สั่งการให้พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.เดชา พรมโสภา สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง จับกุมตัว MR.LI ZHUSHOU อายุ 59 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับของศาลแขวงดุสิต ที่ จ.208/2568 ลงวันที่ 10 ต.ค.68 ข้อหาลักทรัพย์ โดยจับกุมได้ที่บริเวณภายในล็อบบี้ โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร (เมื่อวานนี้ 10 ต.ค.68 เวลาประมาณ 17.30 น.)
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2568 เวลาประมาณ 18.44 น.พ.ต.ท.ธวัชภูมิ ชัยบุญ สว.(สอบสวน) สน.พระราชวัง ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านทอง ผู้เสียหายว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.15 น. ทางร้านได้ตรวจเช็คสต็อกสินค้า ที่ได้จำหน่ายไป โดยพบว่าได้มีสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 2 บาท มูลค่า 111,280 บาท หายไป จำนวน 1 เส้น จึงได้ไปตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.08 น. ได้มีลูกค้าเป็น ชายไม่ทราบชื่อ สวมกางเกงขายาว สีเทา เสื้อยืดลายน้ำเงินคาดขาว สวมหมวกแก็ปสีดำ พูดภาษาจีน เดินเข้ามาในร้านทำทีขอดูสร้อยข้อมือทองคำ ขณะกำลังเลือกดูข้อมือทองคำ ได้ใช้มือซ้ายกำเอาสร้อยข้อมือทองคำไว้
จากนั้นได้ทำทีเอามือข้างที่กำสร้อยข้อมือทองคำ ล้วงไปในกระเป๋ากางเกง และนำเอาสร้อยข้อมือทองคำใส่ในกระเป๋ากางเกง จึงมาแจ้งความ ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง จึงได้ร่วมกันวางแผน รวบรวมพยานหลักฐานจากภาพวงจรปิดภายในที่เกิดเหตุ ซึ่งเห็นผู้ที่ก่อเหตุลักเอาทรัพย์ สร้อยข้อมือทองคำ ของผู้เสียหายไปจริง ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ จากการสืบสวนหาข่าว พบว่าผู้ต้องหาได้เข้าพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวดังกล่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ และได้ทำการสอบถามเจ้าหน้าที่ทางโรงแรม ทราบว่าผู้ต้องหาคือ MR.LI ZHUSHO อายุ 59 ปี สัญชาติ จีน
จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนได้ไปขออนุญาตศาลแขวงดุสิต ออกหมายจับ MR.LI ZHUSHO ผู้ต้องหา ประกอบกับสายลับได้แจ้งเบาะแสว่า พบผู้ต้องหาอยู่บริเวณล็อบบี้ ชั้น 12 ภายในโรงแรม จึงจับกุมตัวไว้ได้
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การปฎิเสธ แต่ยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว จากการตรวจสอบข้อมูลเดินทางเข้าออกเดือนละ 1 ครั้ง เข้ามาไม่เกิน 3 วัน โดยวันก่อเหตุได้เตรียมเสื้อผ้ามา 2 ชุด หลังก่อเหตุเสร็จ ได้บินกลับประเทศทันที เบื้องต้นจึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พระราชวังดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
