กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. จับกุมหญิงวัย 38 ปี ใช้รถเก๋งสวมทะเบียนและปลอมเครื่องหมายเสียภาษีประจำปี หลังตรวจพบพิรุธขณะขับผ่านถนนสายหลักในอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ สารภาพได้รถมาจากการรับจำนำ เจ้าหน้าที่เตือนการปลอมเอกสารราชการมีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. พร้อมคณะเจ้าหน้าที่นำโดย พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สวญ.ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล. ร่วมจับกุม น.ส.ประภาพรฯ อายุ 38 ปี ในข้อหา “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม”
การจับกุมเกิดขึ้นบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 44 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจพื้นที่ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีขาว มีพิรุธ จึงส่งสัญญาณให้หยุดตรวจสอบ พบว่าผู้ขับขี่ไม่สามารถแสดงสำเนาคู่มือจดทะเบียนได้
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหมายเลขตัวถังและเครื่องยนต์ พบว่าข้อมูลไม่ตรงกับทะเบียนที่ติดอยู่ และยังพบว่าแผ่นป้ายทะเบียนและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีเป็นของปลอมทั้งหมด จึงเชื่อได้ว่ารถคันดังกล่าวเป็น “รถสวมทะเบียน”
ของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย รถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว จำนวน 1 คัน, แผ่นป้ายทะเบียนปลอม 2 แผ่น และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีปลอม 1 แผ่น
ผู้ต้องหาให้การเบื้องต้นว่า รถคันดังกล่าวได้มาจากการรับจำนำจากชายไม่ทราบชื่อในพื้นที่จังหวัดกระบี่เมื่อประมาณ 9-10 เดือนก่อน ในราคาประมาณ 100,000 บาท โดยได้รับแผ่นป้ายและเครื่องหมายภาษีมาพร้อมกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลหาตัวผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เตือนว่า การปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม เป็นความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000–100,000 บาท นอกจากนี้ ผู้ที่รับจำนำรถจากบุคคลอื่นโดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างถูกต้อง อาจเข้าข่ายความผิดฐาน “รับของโจร” ได้เช่นกัน
