ฉะเชิงเทรา, วันที่ 10 ตุลาคม – จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม เดินทางไปที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการ และตรวจติดตามความพร้อมของระบบสาธารณูปโภค และตรวจเยี่ยม บริษัท ทีพีเอ็น เฟล็กซ์แพค จำกัด ประกอบการกิจการบรรจุภัณฑ์ ฉลาก สติ๊กเกอร์ ป้ายบรรจุหีบห่อ สำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ครบวงจร โดยมีนายวัชรุน จุ้ยจำลอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) นายสุรศักดิ์ จันทร์ชุม อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา และนางสาวศิริลักษณ์ วิศวรุ่งโรจน์ อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมคณะ

จ่าเอก ยศสิงห์ กล่าวว่า “ผมอยากให้คิดนอกกรอบ แต่ไม่ใช่นอกกฎหมาย นิคมอุตสาหกรรมต้องทำงานร่วมกับท้องถิ่นให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อดูแลแก้ปัญหาร่วมกัน และมีนโยบายให้นิคมฯ และโรงงานทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) เข้าร่วมเวทีประชาคมที่ท้องถิ่นจัดและทุกกิจกรรมในชุมชน ซึ่งจะช่วยให้ปัญหามวลชนในพื้นที่ลดลง รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีเขียวปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม และให้พิจารณาจ้างแรงงานในพื้นที่มากกว่าแรงงานต่างด้าว ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังอยู่กันยาวนาน เพราะเป็นคนในพื้นที่ไม่ต้องเสียค่าเช่า ท้องถิ่นก็มีรายได้จากภาษี ต่อจากนี้ การซักซ้อมดับเพลิงในนิคมฯ จะให้หน่วยงานท้องถิ่นเข้าร่วมแผนเผชิญเหตุเพื่อการระงับเหตุที่รวดเร็ว และรับจะแก้ไขปัญหาจราจรหน้านิคมอุตสาหกรรมในชั่วโมงเร่งด่วน โดยจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ต่อไป“
ทั้งนี้นิคมเวลโกรว์ มีพื้นที่ 3,508 ไร่ มูลค่าเงินลงทุนรวม 260,776 ล้านบาท จ้างแรงงาน 51,000 คน ประกอบด้วย 146 โรงงาน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติ ประเภทกิจการ ร้อยละ 32 เป็นกลุ่มโรงงานบรรจุภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ประเภทพลาสติก ร้อยละ 27 เป็นกลุ่มวัสดุชิ้นส่วนรถยนต์ ร้อยละ 7 เป็นกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และร้อยละ 6 เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภค

จากนั้นรมช.อุตสาหกรรมและคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชม นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการนิคมฯ และตรวจเยี่ยม บริษัท อมตะ บี. กริม เพาเวอร์ ประกอบกิจการ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและไอน้ำ เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ พร้อมได้รับฟังปัญหาจากส่วนราชการ และภาคเอกชนในพื้นที่
สำหรับนิคมอมตะซิตี้ มีพื้นที่ 18,226 ไร่ มูลค่าเงินลงทุนรวม 260,776 ล้านบาท จ้างแรงงานมากกว่า 200,000 คน ประกอบด้วย 700 กว่าโรงงาน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติ นำโดยประเทศญี่ปุ่นกว่าร้อยละ 60 ประเภทกิจการ ร้อยละ 32 เป็นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน ร้อยละ 27 เป็นกลุ่มเหล็ก ยาง พลาสติก ร้อยละ 10 เป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และร้อยละ 7 เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมี
“อุตสาหกรรมจังหวัดต้องรู้ทุกเรื่องและทำงานเต็มที่ตามนโยบาย ปิดเร็ว-หากโรงงานทำผิดกฎหมายทำให้เดือดร้อน เปิดเร็ว-หากแก้ไขครบถ้วนไม่มีการกลั่นแกล้ง พึ่งพาได้-ทั้งกับผู้ประกอบการและชุมชน และให้นิคมฯ รวมทั้งผู้ประกอบการสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด จึงต้องพึ่งพาอาศัยกัน รวมทั้งช่วยรักษาอัตลักษณ์และสินค้าชุมชนที่มีอยู่ เพราะกิจการต้องขยายตัวและเติบโตไปพร้อมกับชุมชน” รมช.อุตสาหกรรม กล่าว

