หลายคนอาจกำลังชื่นชม “คนนอก” ที่มาดูแลเรื่องเศรษฐกิจในรัฐบาลใหม่ เพราะอาจจะไว้ใจจากชื่อเสียงในภาคเอกชน และความไม่ใช่ “คนการเมือง” จนเหมือนคนความจำสั้นไปว่า ในบรรดารัฐมนตรีใหม่ ต่างเต็มไปด้วยนักการเมืองกึ่ง ๆ มาเฟีย ที่เป็นเจ้าพ่อ เป็นบ้านใหญ่ เป็นคนที่มีอะไรดูเทา ๆ ใส่สูทหล่อ ๆ แต่ข้างในเน่าเฟะ ความรู้ความสามารถไม่เคยประจักษ์

แต่ความตั้งซุ้มตั้งกลุ่มเพื่อดึงดูดผลประโยชน์จากภาษีประชาชน มารวมตัวกันเพื่อการต่อรองทางการเมือง เพื่อเตรียมทำทุนแล้วไป “ถอนทุน” หลังต้องเตรียมกระสุนเป็นสิบล้านร้อยล้านนัด ให้เกิดการยิงที่แม่น เพื่อจะได้กลับมาอีก วัฏจักรอัปลักษณ์เหล่านี้ไม่เคยหายไปจากการเมืองไทย แถมยังเข้มข้นมากกว่าเก่า เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาให้ “ตัวแทนจริง ๆ ของประชาชนอ่อนแอ” โลเล เจอลมแห่งเงินปุ๊บกลายสภาพจากคนเป็นงูปั๊บ เปิดทางให้พร้อมเป็น “อีแอบ” พร้อม “ขายตัว” ได้ตลอดเวลา
สถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรอเงินคนละครึ่งที่เขาแบ่งเศษเนื้อให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอย จนมองข้ามความน่ากังวลอย่างมากของระบอบมาเฟียนี้ เพราะว่าดูจากโฉมหน้าของบรรดารัฐมนตรีต่าง ๆ กระทรวงอื่น ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเศรษฐกิจ ต่างประเทศ ไปดูหน้าได้เลยทุกคนว่ามีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ไหม? กระทรวงมหาดไทย เกษตร ทรัพยากร ยุติธรรม ฯลฯ ไม่ต้องไปไหนไกล เอาแค่เขากระโดงซึ่งเป็นที่ที่กังวลใจของประชาชนเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีวาระซ่อนเร้น เป่าให้หายให้จาง หรือมีเทคนิคพิเศษใด ๆ ให้เป็นหมันหรือเปล่า เพราะเจ้าพ่อจังหวัดบุรีรัมย์นั้นเป็นเจ้าของพรรคภูมิใจไทย เขาก็กังวลใจว่ามันจะทำให้มีการพลิกผัน หรือการโยกย้ายข้าราชการเพื่อเตรียมรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับกระทรวงมหาดไทย
อีกกระทรวงหนึ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งเลยก็คือกระทรวงยุติธรรม เพราะก่อนหน้านี้คดีฮั้ว ส.ว. มีผู้ที่โดนแจ้งข้อกล่าวหานั้นมีถึง 229 คนแล้ว ใน 229 คนนี้ก็มีคุณอนุทินที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย มีกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยจำนวนมากเกือบทั้งหมด และก็มี ส.ว. เสียงข้างมากซึ่งก็มีความเกี่ยวพันสัมพันธ์กับพรรคการเมือง ซึ่งตรงนี้ทำให้คนมองว่าตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในเรื่องของคดี เพราะเพียงแค่ว่าถ้ารัฐมนตรีเข้ามาปั๊บ ก็มาโยกย้ายในกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ที่ทำหน้าที่อย่างแข็งขันในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนการทำคดีฮั้ว ส.ว. ในมือของ กกต. ผ่านไปเป็นปีก็ไม่มีอะไรขยับ แต่พอมาอยู่กับ DSI ประมาณ 3–4 เดือนก็เข้าสู่กระบวนการที่จะฟ้องได้แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้ามีการเข้ามาเพื่อที่จะพลิกผันให้คดีมันเปลี่ยนแปลงไป มันก็จะทำให้… แต่ตอนนี้เราก็เริ่มได้กลิ่นแปลก ๆ ในการ “ขอตัวข้าราชการบางคนออกไปช่วยราชการที่อื่น” ไม่มีระบบกระบวนการยุติธรรมที่ไหนน่ากังวลใจในความบิดเบี้ยวตรงนี้ ก็เป็นเรื่องที่จะทำให้รัฐบาลนั้นมัวหมองได้ ว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไร โดยเอารัฐมนตรีเศรษฐกิจคนนอกมามากลบเรื่องราวที่มาเฟียกำลังเคลียร์ทาง สว. ฟอกตัวเองอยู่หรือเปล่า
ไม่มีความมั่นใจใด ๆ ในกลุ่มอภิมหาเครือข่ายมาเฟีย ว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงให้กระบวนการมันเดินไปปกติ เราจะเห็นว่าจะมีการส่งคนกันเอง คนใกล้ชิด คนที่มีความสัมพันธ์กัน แม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองโดยตรง แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าน่าจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ทั้งที่คนในสังคมเขารับรู้กันแล้ว เขาก็เชื่อกันไปแล้วว่ามันเกิดขึ้นจริงนะ การฮั้วที่ว่ามีคนไปร้องเรียนว่ามองจากดาวอังคารก็ยังเห็นคดีนี้แล้ว เหตุไฉนถ้าในอนาคตมันจะถูกเป่าหายไปหรือมันจะบิดพลิกผันไปจากดำเป็นขาวขึ้นมา ประเทศชาติจะเป็นยังไง ถ้ามันค้านสายตาคนดู เพราะหลักฐานต่าง ๆ ที่รับรู้ ทั้งเรื่องของโพย เส้นเงิน การโอนเงินตัวบุคคล พฤติกรรมร่วมที่เป็นกลุ่มต่าง ๆ เนี่ยมันค่อนข้างชัดเจน แต่ถ้าวันหนึ่งมันทำให้รู้สึกว่าเดินมาถึงสุดทางแล้วมันกลับเป็นสีขาว อะไรมันจะเกิดขึ้น?
บทละครของมาเฟียหลังจากนี้อาจจะหาสตอรี่ที่จะแสดงบทออกมาว่าตัวเองเป็นเหยื่อ ตัวเองถูกกลั่นแกล้ง ก็จะต้องหาวิธีการที่จะทำให้ตัวเองพ้นจากความเป็นเหยื่อ พ้นจากการกลั่นแกล้ง ไปสู่จุดที่ตัวเองปลอดภัยบริสุทธิ์
หลังจากนี้เราจะเห็นระบอบมาเฟียที่ทำกระบวนการยึดประเทศไว้อย่างเรียบ้อยครบวงจร เรื่ององค์กรอิสระต้องเข้าใจก่อนว่า ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กล่องดวงใจอยู่ที่องค์กรอิสระเป็นกล่องดวงใจเลย โดยมอบอำนาจให้กับองค์กรอิสระในการที่จะตัดสินวินิจฉัยเรื่องราวต่าง ๆ กับนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการถอดถอนตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีไปจนถึงรัฐมนตรีและ ส.ส. ได้หมด การยุบพรรค การตัดสิทธิ์ทางการเมืองต่าง ๆ กว้างขวางครอบคลุมมีผลผูกพันทุกองค์กร อันนี้เป็นอำนาจที่ใหญ่ล้นเกิน ใหญ่กว่ารัฐบาล ใหญ่กว่าส.ส. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่มีประเทศไหนในโลกที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจกว้างขวางขนาดนี้
ขณะนี้ กกต. ป.ป.ช. มีอำนาจกว้างขวาง และสิ่งที่เหนือกว่าทุกรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมาเลยก็คือมาตรฐานจริยธรรม ลองย้อนดูว่าอดีตนายก 2 คน 2 ปี ถูกถอดถอนไป 2 คนด้วยข้อหาเรื่องมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งเรื่องจริยธรรมเนี่ยมันเป็นเรื่องของการตีความ แล้วก็ไม่ควรจะเอามาใช้ขนาดที่กว้างขวางระดับที่สามารถที่จะตีความจนกระทั่งถอดถอนคนระดับที่เป็นเบอร์ 1 ของประเทศคือนายกรัฐมนตรีให้พ้นจากตำแหน่งได้ง่าย ๆ แต่ฉบับนี้บัญญัติเอาไว้ และนี่คือกล่องดวงใจที่องค์กรอิสระมีอำนาจขนาดนี้ แล้วเขาใส่กล่องดวงใจนี้เอาไว้ที่ไหน? ไว้ที่ ส.ว. แล้ว ส.ว. มาจากไหน? ชุดปัจจุบันนี้มาจากการเลือกกันเองของ 20 กลุ่ม ซึ่งสุดท้ายแล้วมันไม่ได้เลือกกันจริงจัง มีการฮั้วกันชัด มันมีช่องว่างในการที่จะแฮกระบบเข้ามาแล้วก็เข้ามารวบ ส.ว. แล้ว ส.ว. ก็ไปเลือกเห็นชอบคนที่อยู่ในองค์กรอิสระ แล้วองค์กรอิสระก็จะทำหน้าที่อย่างนี้
ขณะนี้เรื่องราวต่าง ๆ ที่มันอยู่ในมือกระบวนการที่จะตรวจสอบ ส.ว. กลุ่มนี้ก็ไปอยู่ในมือขององค์กรอิสระคือ กกต. แล้ว เผื่อว่ามีการร้องใด ๆ ส.ว. ก็ไปร้องคุณที่ศาลรัฐธรรมนูญ อันนี้คือการยึดประเทศแล้ว ยึดทั้งประเทศเลยก็คือสามารถที่จะใช้อำนาจในการที่จะไปเลือกองค์กรอิสระ แล้วให้องค์กรอิสระนั้นมีอำนาจในการตัดสิน ถอดถอน ยุบพรรค หรือแม้แต่การตัดสิทธิ์ตลอดชีวิตใด ๆ ซึ่งอันนี้มันจึงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ๆ นี่คือนี่คืออันตรายของประเทศ เราจะปล่อยให้มีการยึดประเทศไม่ได้
ช่วงที่ผ่านมา บรรดา ส.ว. เสียงข้างมากไม่ได้หยุดการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ทั้งที่ตัวเองกลายเป็นคนที่ถูกกล่าวหาแล้วก็ไปเลือกคนที่จะมาตัดสินคดีให้กับตัวเอง ไปเลือก กกต. ไปเลือก ป.ป.ช. ไปเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอันนี้มันก็เหมือนกับเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีให้กับตัวเอง แล้วเขาจะตัดสินไปยังไง? ในเมื่อคุณเป็นคนเลือกเข้ามาเอง ก็จะกลายเป็นเรื่องของการตอบแทน ซึ่งอันนี้อันตราย แล้วก็สุดท้ายองค์กรอิสระที่เลือกไปครบทุกองค์กรครบทุกตำแหน่ง ก็หมายความว่าองค์กรอิสระจะไม่เป็นอิสระอีกต่อไป แต่กลายไปเป็นองค์กรที่มีเจ้าของ แล้วใครที่เป็นเจ้าของก็คือคนที่เข้าไปเลือก แล้วคนที่เข้าไปเลือกเขาไปผูกพันกับพรรคการเมืองไหน? องค์กรอิสระก็จะกลายไปเป็นมีเจ้าของโดยพรรคการเมือง นี่ก็คือการยึดประเทศทั้งหมด!
ทุกคนได้กลิ่นหายนะจากมาเฟียหรือยังครับ? นี่แค่หนังตัวอย่าง — ภาพยนตร์จริงกำลังฉายอยู่ รอดูฉากที่ “ผู้กำกับ” กำลังฟอกขาวให้มาเฟียกินรวบประเทศได้เลยครับ! แล้วเราจะทำอะไรพวกมันไม่ได้สักอย่าง!


