อีกสามเดือนจะสิ้นสุดปี 2568 ถือว่าเป็นปีที่พุทธศาสนิกชนอยู่ในอาการบอบช้ำมากที่สุด เพราะพฤติกรรมของพระชั้นผู้ใหญ่ที่สมณศักดิ์สูงหลายรูป เกี่ยวพันกับสีกาใช้เงินที่ประชาชนบริจาคทำบุญนำไปปรนเปรอสีกา เสพเมถุน บางรูปนำเงินไปถลุงด้วยการเล่นพนันออนไลน์
เหตุการณ์ที่พุทธศาสนิกชนรู้สึกช็อกหนัก คงหนีไม่พ้นกรณีของ“สมี อลงกต”ที่ใช้ความเจ็บป่วยของชาวบ้านเป็นเครื่องมือแสวงผลประโยชน์ สร้างอาณาจักรทางธุรกิจให้คนใกล้ชิดดูแลมากว่า 20 ปีหรือแม้แต่พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี ที่พุทธศาสนิกชน ทุกระดับให้ความศรัทธาในคำสอนและวัตปฏิบัติ กลับมีเรื่องมัวหมอง ถูกสีกาที่เคยใกล้ชิดแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวเงินบริจาคและวัตปฏิบัติที่มีสีกาดูแลอย่างใกล้ชิด
ผลของคดีจะจบลงแบบไหนคงต้องติดตามเพราะล่าสุด นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยนางกัญญาภัค ชไนเดอร์ หรือสีกายุ เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงพฤติกรรมพระคึกฤทธิ์ ใช้เงินบริจาคของวัดโดยมิชอบ
หากได้ติดตามข่าวเกี่ยวพระสงฆ์ที่ประพฤตินอกรีตจะพบว่ามีเรื่องร้องเรียนส่งถึงสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติและตำรวจสอบสวนกลาง มากว่า 300 เรื่อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่มีหลายเรื่องที่มีการร้องเรียนถึงหน่วยงานทั้งสองและหน่วยงานอื่นๆแบบซ้ำๆ
โดยเฉพาะกรณีของพระระดับเจ้าคณะฯในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ชาวเมืองคอนส่งเรื่องร้องเรียนไปบ่อยครั้ง แต่ๆไร้ความคืบหน้าในการตรวจสอบ เพราะพระรูปดังกล่าวยังใช้ชีวิตแบบปกติทั้งเชยชมสีกาและชื่นชมบุตร ที่เป็นผู้ให้กำเนิดหลังครองผ้าเหลืองได้ไม่นาน ผู้ร้องเรียนระบุถึงพฤติกรรมพระรูปนี้ว่า มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง ใน นครศรีธรรม พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าคณะฯ มีความสัมพันธ์กับสีกาจุ มานานหลายปี จนมีบุตรชายด้วยกัน อายุประมาณ 10 ขวบ
พระรูปนี้จะใช้เงินที่พุทธศาสนิกชนบริจาคทำบุญ เลี้ยงดูลูกเมียเป็นอย่างดี และเพื่อไม่ให้เป็นที่ต้องสงสัยถึงความร่ำรวยของสีกาจุ มีการวางแผนเปิดบริษัททำธุรกิจหลายด้าน เปิดสาขาบริษัทหลายแห่งให้ญาติพี่น้องของสีกาจุ บริหารจัดการ เป็นที่ทราบกันดีว่าผลประกอบการของบริษัทไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จ แต่มีเงินหมุนเวียนผ่านบริษัทแบบเป็นกอบเป็นกำ ซื้อบ้านหรูหลายหลังและทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนมาก
ผู้ร้องเรียนยังระบุอีกว่าเพื่อป้องกันเสียงครหาว่าสีกาจุมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าคณะฯถึงขั้นตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ ว่าจ้างชายหนุ่มมาแต่งงานด้วย หลังจากคลอดลูกแล้วได้แยกทางกัน สีกาจุเลี้ยงดูบุตรชายโดยมีเจ้าคณะฯคอยเป็นกำลังสำคัญ
“ต่อมาข่าวความสัมพันธ์ระหว่างสีกาจุกับเจ้าคณะฯแพร่สะพัดเป็นวงกว้าง แต่เจ้าคณะฯต้องการรักษาสถานะความเป็นพระและเจ้าคณะฯเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเงินทำบุญ ได้ว่าจ้างพระรูปหนึ่งให้ลาสิกขา มาเป็นสามีภรรยาทิพย์กับสีกาจุ เพื่อกลบข่าวความสัมพันธ์กับเจ้าคณะฯ”ผู้ร้องเรียนระบุ
ผู้ร้องบอกว่ามีชาวบ้านรอบๆวัดที่ทนเห็นพฤติกรรมไม่เกรงกลัวนรกของเจ้าคณะฯและสีกาจุไม่ไหว ได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานที่ตำรวจ สำนักพุทธฯ รวมถึงเถรสมาคมและพระวินยาธิการหรือตำรวจพระ แต่เรื่องกลับเงียบไม่สามารถไปต่อได้ เพราะมีพระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช บางรูปให้การช่วยเหลือคอยปกปิดความผิดให้ เพราะเอื้อผลประโยชน์กันอยู่ ซึ่งข้อร้องเรียนนี้หากทางตำรวจ สำนักพุทธฯและพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจตรวจสอบ จะดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง ทำได้ไม่ยากเพราะมีหลักฐานทั้งเอกสารเป็นเส้นทางเงิน หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ด้วยการตรวจดีเอ็นเอ
ดังนั้นเพื่อไม่ให้วงการพระสงฆ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงทางพระพุทธศาสนาของภาคใต้มัวหมอง ที่ถูกพวกอลัชชีนำไปเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์หาเงินปรนเปรอสีกา เสพเมถุน ขอวิงวอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักพุทธฯ และตำรวจ โดยเฉพาะ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ที่ได้ฉายาว่ามือปราบเสือเหลืองหรือมือปราบอลัชชี ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเชื่อถืออย่างสูง ช่วยเร่งดำเนินการตรวจสอบและขจัดมารศาสนาที่มีสมณศักดิ์ระดับเจ้าคณะฯ รูปนี้โดยเร็วด้วย
ถ้าเป็นไปได้จัดการก่อนถึงเทศกาลทอดกฐินจะเป็นผลดีอย่างมาก เพราะเงินที่พุทธศาสนิกชนนำไปทำบุญทอดกฐินจะได้ไม่ถูกดูดเข้ากระเป๋าสีกา !!!
