ยะลา, วันที่ 3 ต.ค. – นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหป้องกันวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวถึงปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยชี้ว่ายาเสพติดเป็นทั้ง ‘ภัยแทรกซ้อน’ ด้านความมั่นคง และเป็น ‘ปมหลัก’ ที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่ พร้อมเน้นย้ำความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการจัดการปัญหาอย่างรอบด้าน โดยใช้พลังภาคประชาชนเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งฝ่ายพัฒนาและฝ่ายความมั่นคงมีความเข้าใจตรงกันว่า ยาเสพติดเป็นส่วนหนึ่งที่ ‘เกื้อกูลสนับสนุน’ ให้เกิดปัญหาความไม่มั่นคงในพื้นที่ได้
นายนันทพงศ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงมองว่ายาเสพติด คือภัยแทรกซ้อน ที่จะทำให้เกิดเงื่อนไข ให้ความไม่สงบขยายตัวได้ง่ายขึ้น จึงนำเอามาตรการทางกฎหมายมาควบคุมดูแล ส่วนมิติของงานพัฒนา ศอ.บต. มองว่ายาเสพติดคือ ‘ปมหลัก’ ที่เป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการพัฒนาในพื้นที่ ดังนั้นรัฐบาลจึงสนับสนุนให้มีการดำเนินงานในทุกมิติอย่างเข้มข้น
รองเลขา ศอ.บต. กล่าวถึงการทำงานร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 9 ว่าจะเน้นไปที่ ‘งานป้องกัน’ และ ‘งานฟื้นฟู’ เป็นหลัก โดยใช้ ‘พลังภาคประชาชน’ เป็นตัวเดินงาน ให้ภาครัฐเป็นส่วนสนับสนุน “เราก็เอาเรื่องพืชกระท่อม เป็นเรื่องนำร่องของงานยาเสพติด เพราะว่าพืชกระท่อม เป็นพืชที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น แล้วก็มีการนำมาใช้ในทางที่ผิด ก็เลยเกิดปัญหาว่าเรื่องใกล้ตัวที่ภาคประชาชน พี่น้อง ผู้นำศาสนาต้องช่วยกัน”
นายนันทพงศ์ ระบุว่า ในมุมของการพัฒนา จึงให้ความสำคัญกับการจัดการพืชกระท่อมที่นำมาใช้ในทางที่ผิด เพื่อไม่ให้เป็นเงื่อนไข หรือเป็นปัญหาที่จะนำไปสู่การเข้ามาแสวงประโยชน์ของผู้ก่อเหตุ “หลาย ๆ ฝ่ายอาจจะมองว่า ผู้ก่อเหตุจะอาศัยคนติดยาหรือคนที่มีปัญหายาเสพติด ไปก่อเหตุ อันนั้นคือส่วนหนึ่ง แล้วก็อาจจะเป็นส่วนที่ไม่มากนัก แต่ส่วนสำคัญก็คือ เขาได้พยายามใช้ในสิ่งที่ เป็นเงื่อนไขของสังคมที่มีปัญหายาเสพติด เป็นตัวที่จะปลุกเร้าให้คนเห็นว่า รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ รัฐบาลไม่ใส่ใจกับการดูแลชุมชนหรือพื้นที่นี้”
ทั้งนี้นายนันทพงศ์ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกและได้ทุ่มสรรพกำลังทุกอย่างเข้ามาจัดการกับปัญหายาเสพติดในพื้นที่ แต่หากภาคประชาสังคม และภาคประชาชนสามารถรวมพลังกับภาครัฐได้อย่างเข้มแข็งและใกล้ชิด จะนำไปสู่ชัยชนะเหนือปัญหายาเสพติดในทุกมิติงาน “ทั้งงานพัฒนา และงานความมั่นคง” ได้อย่างแน่นอน
