ตำรวจไซเบอร์เดินหน้าแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ตามนโยบายรัฐบาล เปิดปฏิบัติการใหญ่ 3 คดีสำคัญ ดำเนินคดี 20 บริษัทในเครือข่ายหลอกลงทุนหุ้น เสียหายกว่า 27 ล้านบาท รวบผู้ต้องหาได้แล้ว 19 ราย พร้อมจับหนุ่มโพสต์อวดปืนบนเฟซบุ๊ก และทลายแก๊งหลอกลงทุนทองคำ เสียหายกว่า 7 แสนบาท
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมทีมผู้บังคับบัญชาระดับสูงจากตำรวจไซเบอร์ ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ ภายใต้นโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผลงานสำคัญจาก 3 คดีใหญ่ ได้แก่ การจับเครือข่ายหลอกลงทุนหุ้นออนไลน์, การจับผู้โพสต์อวดปืนบนโซเชียล และการจับเครือข่ายหลอกลงทุนซื้อขายทองคำ
ปฏิบัติการที่ 1: รวบหนุ่มโพสต์อวดปืนบนโซเชียล
ชุด Cyber Guard กก.4 บก.สอท.5 เข้าจับกุมนายนัฐพงษ์ อายุ 38 ปี หลังพบโพสต์อวดอาวุธปืนบนเฟซบุ๊ก ตรวจค้นห้องพักในอะพาร์ตเมนต์ย่านดินแดง พบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 พร้อมกระสุน 12 นัด โดยไม่มีใบอนุญาต จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลแหล่งที่มา
ปฏิบัติการที่ 2: ทลายเครือข่ายลวงลงทุนหุ้น ดำเนินคดี 20 บริษัท เสียหายกว่า 27 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์จาก กก.3 บก.สอท.2 สืบสวนคดีหลอกลวงผ่านเฟซบุ๊ก โดยใช้ชื่อบัญชี “อ.นเรศ งามอภิชญ์” ชักชวนเหยื่อลงทุนผ่านแพลตฟอร์มปลอม “SAXOPLUS TH” อ้างสามารถซื้อหุ้นราคาพิเศษนอกตลาด ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีบริษัทต่าง ๆ กว่า 20 แห่ง รวม 21 บัญชี โดยอ้างค่าธรรมเนียม ค่าวางเงินปลดล็อกบัญชี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 26,679,568.39 บาท ตำรวจสามารถระบุตัวผู้ต้องหา 18 ราย จับกุมแล้ว 19 ราย (รวมผู้เกี่ยวข้องรายอื่น) พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับกรรมการบริษัทจำนวน 20 บริษัท โดยแยกเป็น11 บริษัท แจ้งข้อหาแล้ว 9 บริษัท ออกหมายจับแล้ว จับกุม น.ส.ชลธิชา อายุ 23 ปี กรรมการ หจก.เจดีลีไลฟฟ์ ได้ที่ จ.นนทบุรี ตามหมายจับศาล
ปฏิบัติการที่ 3: ทลายแก๊งหลอกลงทุนทองคำ เสียหายกว่า 7 แสน
กก.4 บก.สอท.1 นำทีมจับกุมนายเชิดชาย อายุ 27 ปี ชาวสระแก้ว หลังผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนซื้อขายทองคำผ่าน Facebook โดยอ้างเป็นการลงทุนกับร้านทองชื่อดัง ก่อนถูกดึงเข้ากลุ่มไลน์เพื่อปั่นกระแสความน่าเชื่อถือ ผู้เสียหายโอนเงินไปกว่า 722,996 บาท แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ จึงเข้าแจ้งความ ผู้ต้องหาโดนข้อกล่าวหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์” ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลสู่ขบวนการที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจไซเบอร์ย้ำ! ใครเป็นเหยื่อสามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันจะดำเนินคดีกับขบวนการฉ้อโกงออนไลน์ทุกรูปแบบให้ถึงที่สุด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหากพบพฤติกรรมต้องสงสัยหรือเคยตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งความผ่าน สายด่วน 1441 หรือ www.thaipoliceonline.com
