ที่ กองปราบปราม นายนพสิทธิ รุ่งโรจน์โชคนิธิ อายุ 50 ปี ผู้ประกอบการขายสินค้าทางการเกษตร พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายประกอบด้วย แพทย์จาก รพ.ต่างๆ นักธุรกิจ รวม 10 คน เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโท สัณห์เพ็ชร หนูทอง รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ 1 กองปราบปราม (รองผกก.สอบสวน กก.1 บก.ป.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นางกันยานี ปานฉิม อายุ 50 ปี เกษตรกรดีเด่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปี 2560 ในข้อหาฉ้อโกง หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนซื้ออาหารสัตว์นำไปให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ด ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคกลาง จนต้องสูญเงินกว่า 40 ล้านบาท
นายนพสิทธิ กล่าวว่า รู้จักกับ นางกันยานี ขณะเดินทางไปทำบุญที่ต่างจังหวัดด้วยกัน เห็นว่าเขาเป็นเกษตรกรดีเด่นและเคยได้รับรางวัลจากสถานปฏิบัติธรรมชื่อดังแห่งหนึ่งจึงน่าจะเป็นคนดีมีเมตตา ต่อมานางกันยานีได้อ้างว่ากำลังทำโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดที่ได้รับพันธ์เป็ดตามโครงการของรัฐ แต่ไม่มีอาหารให้เป็ดกิน ขณะนี้เป็ดกำลังอยู่ในสภาพอดอาหาร ผู้เลี้ยงต้องทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกัน เพื่อแย่งชิงอาหารไปเลี้ยงเป็ด เขาจึงชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุน ซื้ออาหารสัตว์จากบริษัทเอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับกลุ่มเกษตรกร ในจังหวัด ต่างๆ อาทิ ลพบุรี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาทอ่างทอง อุทัยธานี ผ่านทางสหกรณ์การเกษตรของแต่ละจังหวัด
นายนพสิทธิ กล่าวต่อว่า จากนั้นเขาได้นำเอกสารสัญญาซื้อขายอาหารสัตว์ระหว่างสหกรณ์กับบริษัทผลิตอาหารสัตว์ รวมถึงหนังสือรับรองจากทางธนาคารมาให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ด้วยความสงสารและเห็นว่าโครงการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดที่กำลังเดือดร้อน สำหรับรายละเอียดการลงทุนนั้น อาหารสัตว์จำนวน 1 คันรถ จะต้องใช้เงินลงทุน 150,000 บาท ได้กำไร 4,000 บาท ในระยะ 5 วัน โดยเริ่มลงทุน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งช่วงแรกที่นำเงินไปลงทุนนั้นยังได้รับผลตอบแทนตามปกติ
นายนพสิทธิ กล่าวอีกว่า ต่อมาจึงได้ชักชวนเพื่อนๆ ที่รู้จัก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหมอและนักธุรกิจ มาร่วมลงทุนดรวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท กระทั่งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. นางกันยานี ได้ติดต่อมาเพื่อขอให้ช่วยหาเงินมาลงทุนเพิ่มอีก 12 ล้านบาท แต่ตนเห็นว่าเงินที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้มีมูลค่าค่อนข้างสูงมากจึงไม่ได้ให้ไป จนเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นางกันยานี ได้เริ่มผัดผ่อนจ่ายเงินปันผลโดยอ้างว่ากำลังถูกเจ้าหน้าที่สหกรณ์แห่งหนึ่งโกงเงินกว่า 20 ล้านบาท ก่อนจะเริ่มขาดการติดต่อไปในที่สุด จากนั้นตนจึงนำสำเนาหนังสือสัญญาและหนังสือการันตีจากธนาคารเอกชน 2 แห่งที่ นางกันยานี เคยให้ดูไปตรวจสอบพบว่าเป็นหลักฐานเท็จจึงรวมตัวเข้าแจ้งความดังกล่าว ด้าน พ.ต.ท.สัณห์เพ็ชร กล่าวว่า ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมกับทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง