”ผู้การฯ-หน.โรงพัก” ตั้ง กต.ตร.ระวังพวกสร้างภาพ ต้องเช็กประวัติ ใช้ตำแหน่งหาผลประโยชน์-ตบทรัพย์

1295

ช่วงเย็นวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เปิดโทรศัพท์เปิดอ่านข่าวของสำนักต่างๆ มาสะดุดข่าวศาลจังหวัดธัญบุรี ปทุมธานี นัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีนายทัศนัย วันคง นักธุรกิจ เป็นโจทก์ ฟ้องนายชัยเมศร์ หรือปรเมศร์ ชัยพัชรกุล เป็นจำเลยกับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารเช็กของธนาคาร

แต่ทนายความจำเลยส่งเสมียนทนายความขอเลื่อน โดยอ้างว่าทนายจำเลยเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นทนายความในคดี มีนัดยื่นคำขอปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลจังหวัดสระแก้ว ซึ่งนัดไว้ก่อนแล้ว ศาลพิเคราะห์จึงอนุญาตให้เลื่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องเป็นวันที่ 21 ตุลาคม

เนื้อหาข่าวระบุว่า นายชัยเมศร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.รัตนาธิเบศร์ นนทบุรี พร้อมบรรยายถึงพฤติกรรมเป็นสมาชิกวงแชร์ ใช้วิธีนำเช็กผู้อื่นมาสั่งจ่ายชำระค่าแชร์ โดยให้คนขับรถเป็นนอมินี แต่เช็กถูกปฏิเสธการจ่ายจากธนาคาร สร้างความเสียหายให้กับเจ้ามือแชร์และลูกแชร์จำนวนมาก เพราะจำเลยเล่นแชร์หลายวง มียอดค้างวงแชร์ทุกวงรวมกันมีมูลค่ากว่า 18 ล้านบาท

ถ้าอ่านจากเนื้อหาข่าว ประชาชนทั่วไปมองว่าเป็นคดีฉ้อโกงทั่วไป แต่ในแวดวงตำรวจถือว่าผิดปกติและเรื่องใหญ่ เพราะจำเลยถูกแต่งตั้งเป็น กต.ตร. โรงพัก ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้ถ้าเป็นสุจริตชนทั่วไปจะสร้างประโยชน์ให้กับโรงพักและประชาชนที่ไปใช้บริการ

ในทางตรงข้าม มี กต.ตร. ทั้งระดับโรงพักและระดับกองบังคับการจังหวัด (บก.จว.) หลายคนใช้ตำแหน่งนี้ไปแสวงหาผลประโยชน์และตบทรัพย์ กต.ตร. บางคนอ้างชื่อโรงพักหรือ บก. ไปจัดกิจกรรมขายบัตรให้กับพ่อค้านักธุรกิจในพื้นที่ อ้างว่าต้องการเงินสนับสนุนกิจกรรมของตำรวจ ส่วนใหญ่จบลงแบบ กต.ตร. ครึ่งหัวหน้าโรงพักครึ่ง บางพื้นที่นักธุรกิจหรือพ่อค้าไม่เห็นด้วยเพราะจำหน่ายบัตรราคาสูง ผู้เกี่ยวข้องจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่มิจฉาชีพในคราบ กต.ตร. ใช้ทำมาหากิน​ แต่กรณีที่นักธุรกิจฟ้องนายชัยเมศร์ ต่อศาลจังหวัดธัญบุรี จะเข้าทำนองเดียวกันหรือไม่ สุดจะคาดเดา​ แต่จำได้ว่าช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ”ประดู่แดง” เคยเขียนถึงความเดือดร้อนของนักธุรกิจ ที่ถูกบุคคลอ้างว่าเป็น กต.ตร. และเป็นที่ปรึกษาอัยการจังหวัดฯ ฉ้อโกง ขอยกมานำเสนอแบบคร่าวๆ อีกครั้ง

ผู้ร้องบอกว่าบุคคลนี้สร้างภาพหน้าฉากดูเป็นคนดี มีจิตอาสา และมีคุณวุฒิสูง อ้างจบปริญญาโท ปริญญาเอก แต่หลังฉากจอมปลอมใช้ตำแหน่งไปแสวงหาผลประโยชน์ทั้งในรูปแบบตบทรัพย์ ฉ้อโกง และบางครั้งร่วมมือกับตำรวจระดับสูงในกองบัญชาการ (บช.) และกองบังคับการ (บก.) และอัยการที่เซ็นแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา แสวงหาผลประโยชน์ในทางมิชอบแล้วนำมาแบ่งกัน แบบไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่

รวมถึงใช้คราบ กต.ตร. เข้าตีสนิทกับนักธุรกิจวงการต่างๆ ผุดวงแชร์ อ้างว่าเพื่อช่วยเหลือยามหมุนเงินไม่ทัน มีนักธุรกิจหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก วิธีการจะใช้วิธีตีเช็กให้กับสมาชิกวงแชร์ โดยให้คนขับรถออกหน้าเป็นนอมินี แต่สุดท้ายแชร์ล่ม สร้างความเสียหายให้กับลูกแชร์จำนวนมาก เพราะแชร์มีหลายวง

ผู้เสียหายนำคดีฟ้องต่อศาลแขวง โดยฟ้องคนขับรถเป็นจำเลยที่ 1 และคนสลักหลังเช็กเป็นจำเลยที่ 2 ความผิดฐานฉ้อโกง มีการสู้คดีในชั้นศาล จำเลยที่ 1 มีความผิด แต่จำเลยที่ 2 ลอยนวล เพราะเป็นเพียงคนสลักหลังเช็ก

เมื่อเครดิตในแวดวงสีกากีเริ่มถดถอย ได้วิ่งเต้นเข้าหา สส. และนักการเมืองในพื้นที่เพื่อแทรกตัวเข้าอยู่ในส่วนทีมงานเลขานุการอนุกรรมาธิการ จนสามารถเดินเข้ารัฐสภาได้อย่างสบายใจเฉิบ พร้อมสร้างภาพเป็นคนดี ช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งในรูปแบบซื้อสินค้าและเปิดเพจรับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านที่มีปัญหาเดือดร้อน ซึ่งเพจนี้อาจจะกลายเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบตบทรัพย์จากทั้งผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียนก็เป็นได้

ซึ่งพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวนี้ ไม่แน่ใจว่าหลุดรอดเข้าไปนั่งเป็น กต.ตร. โรงพัก และ บก. รวมถึงเป็นที่ปรึกษาอัยการจังหวัด และอยู่ในทีมงานของอนุกรรมาธิการในสภาฯ กี่คน ได้แต่ฝากถึงผู้มีอำนาจในการแต่งตั้ง โดยเฉพาะ กต.ตร. ก่อนที่จะแต่งตั้ง ขอให้ผู้การฯ และหัวหน้าโรงพักเช็กประวัติให้ละเอียดก่อน ว่าเป็นพวกสร้างภาพให้ดูดี แต่หลังฉากคือพวกตบทรัพย์หรือไม่?

เนื้อหาที่ ”ประดู่แดง” นำเสนออีกรอบแบบคร่าวๆ นี้ คงจะไม่ไปตรงกับพฤติกรรมของนายปรเมศร์ ที่ถูกนักธุรกิจฟ้องฐานฉ้อโกงต่อศาลจังหวัดธัญบุรีหรอกนะ

แต่เพื่อความกระจ่าง อยากให้ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ที่นายปรเมศร์นั่งเป็น กต.ตร. ช่วยตรวจสอบแบบเจาะลึกอีกรอบ เพื่อไม่ให้สังคมคาใจ และน่าจะเป็นผลดีกับนายปรเมศร์โดยตรง!!!