กรุงเทพฯ, วันที่ 17 กันยายน – นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบนโยบายในการประชุมเตรียมความพร้อมสำหรับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) 76 จังหวัด เรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) พ.ศ. 2568 พร้อมทั้งมอบโล่รางวัลแก่เจ้าหน้าที่เยียวยาต้นแบบ 4 จังหวัด (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา) 4 รางวัล และครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบต้นแบบ 4 รางวัล โดยการประชุมดังกล่าวเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบใน จชต. รวมถึงระบบฐานข้อมูลและระบบติดตามผู้ที่ได้รับการโดย พม. ตั้งแต่ ปี 2548 – 2568 จำนวน 84,179 คน ทั้งกรณีเสียชีวิต – บาดเจ็บ การสนับสนุนอาชีพ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การมอบเงินยังชีพรายเดือนสำหรับบุตรผู้เสียชีวิตและคนพิการตามลักษณะความพิการ และการช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัวที่ประสบปัญหาและครอบครัวอุปถัมภ์
จากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2547 – 30 มิ.ย. 2568 พบว่ามีเด็กกำพร้า จำนวน 6,843 คน และสตรีหม้าย จำนวน 3,280 คน จึงมีแนวทางการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2548 และ มติ ครม. ที่เกี่ยวข้อง ด้วยการช่วยเหลือ 2 ลักษณะ ได้แก่ จ่ายครั้งเดียว กรณีเสียชีวิต บาดเจ็บเล็กน้อย บาดเจ็บสาหัส และจ่ายต่อเนื่องรายเดือน กรณีเงินยังชีพรายเดือนเพื่อการศึกษา ความพิการ และครอบครัวอุปถัมภ์
นายอนุกูล กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้ดำเนินการอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง และมุ่งเน้นเชิงคุณภาพ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่ม “คนพิการ” ส่วนกลุ่มเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา เป็นกลุ่มที่มีการดำเนินงาน และมีการติดตามโดยหน่วยงานอื่น ต่างจากกลุ่มคนพิการเป็นกลุ่มที่กระทรวง พม. มีหน้าที่หลักในการช่วยเหลือดูแล จึงควรดำเนินการในรูปแบบการจัดการรายกรณี โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ผ่านการทำงานร่วมกับ อปท. และใช้กลไกเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และสภาเด็กและเยาวชน
ปลัด พม. กล่าวว่า สำหรับสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการสามารถสนับสนุนการติดตามกลุ่มคนพิการที่ได้รับผลกระทบ และศึกษาข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำมาพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพ พร้อมหาแนวทางในการส่งเสริมให้ผู้ได้รับผลกระทบได้รับการพัฒนาศักยภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิต โดยมุ่งเน้นกลุ่มเด็ก เยาวชน สตรีหม้าย และผู้พิการ ที่อยู่ในพื้นที่ จชต. และที่อื่น โดยการส่งต่อจาก พมจ. ต้นทาง ไปจังหวัดปลายทาง การบริการแบบ One Stop Service หรือการบริการเบ็ดเสร็จในจุดเดียว และการบันทึกข้อมูลอย่างต่อเนื่องในระบบสมุดพกครอบครัวอิเล็กทรอนิกส์ (MSO – Logbook) ทำให้ทราบถึงสภาพปัญหาครอบครัว เพื่อวางแผนการดำเนินงานช่วยเหลือได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ
