“แพทองธาร” เผยได้พูดคุยกับทักษิณบิดา ผ่านกระจกเยี่ยมผู้ต้องขังราว 30 นาที ยืนยันสุขภาพแข็งแรงแม้มีปัญหาความดันและความเครียด พร้อมฝากขอบคุณทุกกำลังใจ ขณะที่ทนายความย้ำ ยังไม่มีการยื่นขอคุมขังนอกเรือนจำ ทุกขั้นตอนเป็นไปตามระเบียบราชทัณฑ์ ไม่ได้มีสิทธิพิเศษใด ๆ

วันนี้ (15 ก.ย. 2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บิดา เป็นครั้งแรกที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังพ้นระยะกักโรคครบ 5 วัน โดยการเยี่ยมเป็นไปตามระเบียบราชทัณฑ์ ผ่านกระจกกั้น ไม่สามารถสัมผัสได้
แพทองธาร เปิดเผยว่า วันนี้ได้พบและพูดคุยกับคุณพ่อประมาณ 30 นาที สังเกตเห็นว่าคุณพ่อตัดผมสั้นแล้ว สุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี แม้จะมีอาการความดันสูงและความเครียดบ้าง แต่ยังมีกำลังใจที่เข้มแข็งกว่าคนในครอบครัว พร้อมขอบคุณประชาชนที่ส่งแรงใจมาให้ โดยเล่าว่าผู้คุมรายงานว่ามีประชาชนแวะทานก๋วยเตี๋ยวใกล้เรือนจำแล้วบอกว่า “ได้ทานพร้อมท่าน” ซึ่งทำให้ทักษิณรู้สึกขอบคุณทุกำลังใจ
เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวว่าราชทัณฑ์อาจให้ทักษิณช่วยสอนภาษาอังกฤษ น.ส.แพรทองธาร ระบุว่า ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเพิ่งพ้นการกักโรค แต่ยอมรับว่าคุณพ่อซึ่งอายุ 76 ปี มีประสบการณ์หลากหลาย อาจแบ่งปันความรู้ได้มากกว่าแค่เรื่องภาษา เพราะเป็นคนรักการอ่านและชอบถ่ายทอดความรู้
ในประเด็นการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษหรือคุมขังนอกเรือนจำ ย้ำว่า ขอให้เป็นหน้าที่ของทีมทนายความที่จะชี้แจงในรายละเอียด ส่วนการเลือกตั้งซ่อมเชียงราย ทักษิณไม่ได้ฝากฝังอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่กล่าวแสดงความยินดีและมีการพูดคุยไปแล้ว ยืนยันว่าจะกลับมาเยี่ยมบิดาอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณประชาชนที่ส่งแรงใจให้ครอบครัวชินวัตรในช่วงเวลานี้ โดยย้ำว่า “ชีวิตครอบครัวก็มีหลายรสชาติ แต่สิ่งสำคัญคือการให้กำลังใจกันในทุกเรื่อง”
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกที่ครอบครัวได้เข้าเยี่ยม หลังทักษิณถูกคุมขังมาแล้ว 7 วัน โดยยืนยันว่า อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการปฏิบัติเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ ถูกจัดให้อยู่แดนผู้สูงอายุในแดนพยาบาล ซึ่งเหมาะสมกับสภาพร่างกาย ยอมรับว่านายทักษิณมีโรคประจำตัว ทั้งความดันและความเครียด แต่เจ้าตัวพยายามดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่า ข่าวลือเรื่องการได้รับสิทธิพิเศษหรือห้องคุมขังพิเศษนั้นไม่เป็นความจริง ทุกขั้นตอนเป็นไปตามระเบียบราชทัณฑ์ทั้งหมด
สำหรับข่าวลือว่ามีอดีตนายตำรวจ 2 นายทำหน้าที่เป็น “บัดดี้” ดูแลใกล้ชิด ทนายความระบุว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริง ส่วนประเด็นเรื่องทรัพย์สินที่ถูกในต่างประเทศ (กัมพูชา)แสนล้าน ยืนยันว่าหากมีผู้กล่าวหาโดยปราศจากหลักฐาน จะดำเนินการทางกฎหมายแน่นอนและกล่าวทิ้งท้ายว่า ครอบครัวไม่ได้ร้องขอสิทธิพิเศษเรื่องความปลอดภัยใด ๆ เพราะเรือนจำมีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้กำลังใจและหวังให้อดีตนายกรัฐมนตรีมีสุขภาพแข็งแรงตลอดระยะเวลาที่ต้องโทษ ส่วนตัวหากไม่ติดภารกิจอะไรก็จะมาเยี่ยมทุกวัน

