นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการพบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงบรรดาผู้ค้าหาบเร่ แผงลอยทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจย่ำแย่ รายได้ลดลงอย่างมาก สินค้าขายไม่ได้ เข้าทำนองทุนหายกำไรหด เป็นเหตุให้ต้องหยิบยืมเงินกู้นอกระบบมาเป็นทุนหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน สภาวะปากกัดตีนถีบอันเนื่องมาจากความย่ำแย่ทางด้านเศรษฐกิจของชาวบ้าน สอดคล้องกับผลสำรวจของนิด้าโพล ที่เปิดเผยว่า มีประชาชนถึง 61.92 % เห็นว่าเศรษฐกิจปี 61 แย่ลง ซึ่งก็หมายถึงเศรษฐกิจในสมัยรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจแย่ลง มีคนจนมากถึง 14.7 ล้านคน จากประชากรเกือบ 70 ล้านคนทั้งประเทศ จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างมากในขณะนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาลแล้วยังก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่หาซื้อมาเสพกันง่ายเหมือนซื้อลูกอม รวมถึงเกิดปัญหาเรื่องการคอรัปชั่นในหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน
นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า นิด้าโพลยังพบอีกว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.16 เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นหลังเลือกตั้งปีหน้า เพราะมีความมั่นใจต่อรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งน่าจะมีแนวทางในการบริหารและพัฒนาประเทศได้ดีกว่า และต่างชาติจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น