กาญจนบุรี, วันที่ 10 ก.ย. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) กาญจนบุรี เตือนประชาชนโดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ให้เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus: RSV) ดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) วิธีการป้องกันดูแลสุขภาพเช่นเดียวกับการป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ ด้วยการล้างมือบ่อยๆ หรือใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ไม่ควรนำมือมาสัมผัสกับใบหน้า หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และควรปิดปากปิดจมูกเวลาไอจาม

น.พ.ธีรพจน์ ฟักน้อย นายแพทย์ สสจ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เชื้อไวรัส RSV เป็นสาเหตุของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถเกิดการติดเชื้อได้ในทุกกลุ่มอายุ แต่อาการจะรุนแรงในเด็กเล็ก เด็กที่คลอดก่อนกำหนด และผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติ เป็นต้น การติดต่อส่วนใหญ่เป็นแบบ droplet หรือฝอยละออง ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อหรือวัตถุที่มีการปนเปื้อน โดยเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือ ผ่านการหายใจเอาละอองเสมหะของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี
ผู้ติดเชื้อจะมีอาการตั้งแต่อาการเพียงเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจเร็ว หอบเหนื่อยเนื่องจากปอดอักเสบ รับประทานอาหารได้น้อย ซึมลง และในเด็กไม่เล่น ไม่ดูดนม ควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัว หากติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีอาจมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง หรือเสียชีวิตได้ ข้อมูลจากการเฝ้าระวังโรคฯ ของกองระบาดวิทยา พบว่า เชื้อ RSV เป็นสาเหตุหลักของการเกิดปอดอักเสบรุนแรงในเด็กและผู้สูงอายุ จากลักษณะทางระบาดวิทยาพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ มักพบการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กเล็กเป็นหลัก
ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังโรคดิจิทัล (Digital Disease Surveillance: DDS) กองระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 21 กรกฎาคม 2568 มีรายงานผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัส RSV 1,631 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วย 3 อันดับแรก เป็นกลุ่มอายุ 0 – 4 ปี จำนวน 1,246 ราย รองลงมา คือ อายุ 5 – 9 ปี 141 ราย และอายุ 60 ปีขึ้นไป 60 ราย

นายแพทย์ สสจ.กาญจนบุรี เน้นย้ำให้ประชาชน ผู้ปกครอง และผู้สูงอายุ เตรียมพร้อมเฝ้าระวังและใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 โดยการสร้างความตระหนัก แนวทางการป้องกันสำหรับประชาชนทั่วไป ดังนี้ 1) ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 2) เลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาสัมผัสจมูก ปาก หรือตา 3) ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม 4) หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังพบเด็กป่วย 5) เลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น ไม่ควรพาเด็กไปเล่นในที่ๆ มีเด็กเล่นอยู่ด้วยกันจำนวนมาก
ส่วนคำแนะนำสำหรับผู้ป่วย คือ 1) หยุดพักรักษาตัวที่บ้าน และสวมหน้ากากอนามัย หมั่นทำความสะอาดบ้านเพื่อลดเชื้อ 2) ดื่มน้ำมากๆ เนื่องจากน้ำจะช่วยทำให้สารคัดหลั่งไม่เหนียวจนเกินไป 3) หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น หอบเหนื่อย ซึมลง รับประทานอาหารได้น้อย ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

