กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.(ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบก.ทล.), พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป รอง ผบก.ทล, พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สิทธิใหญ่ ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.จิรพันธุ์ รุจิระกุล รอง ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง รอง ผกก.6 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ศตวรรฒ แวงแสน สว.ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล., ร.ต.อ.กัมพล อารีล้น,
ร.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ คำสิงห์นอก รอง สว.ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล., ร.ต.ท.นาวิน ชาญประโคน รอง สว.(ป.) ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล., ด.ต.ปราโมทย์ ตะเกิงราช, ด.ต.หญิงวิไล กระสินรัมย์, จ.ส.ต.โชติธนินท์ เนติทิพยวิทย์ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.6บก.ทล.ร่วมกันจับกุมตัว นางจันทิมาภรณ์ฯ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 90/2566 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2566
สถานที่จับกุม ลานจอดรถภายในห้างแห่งหนึ่ง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน 1.หมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 9/2568 ลงวันที่ 29 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร”
2.หมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 91/2566 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
“ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ลักทรัพย์ ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ฉ้อโกง”3.หมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.279/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสรราชการปลอม”
พฤติการณ์ ตามนโยบายผู้บังคับบัญชาให้เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมออกสืบสวนหาข่าวติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับที่ใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียนรถเป้าหมาย บุรีรัมย์ ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ได้ตรวจพบรถยนต์หมายเลขทะเบียนรถเป้าหมาย หมายเลขทะเบียน บุรีรัมย์ ขับขี่เข้ามาในเขต อ.นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประสานกันในการจับกุม โดยพบรถยนต์คันดังกล่าวที่ ทล.24 ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ จึงได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไปจนถึง ลานจอดรถภายในห้างแห่งหนึ่ง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แล้วจึงได้แสดงตนเป็น
เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อตรวจสอบ พบนางจันทิมาภรณ์ฯ อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบว่า เป็นบุคคล
ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 90/2566 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2566 พร้อมได้แสดงหมายจับดังกล่าวให้ผู้ถูกจับดูแล้วผู้ถูกจับรับว่าตนเองเป็นบุคคลที่มี ชื่อ – สกุล ที่อยู่ หมายเลขประจำตัวประชาชน ตรงตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งว่าเขาต้องถูกจับ พร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ทราบ ผู้ถูกจับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิ์ดีแล้วให้การรับสารภาพในข้อกล่าวหา แล้วจึงได้นำตัวผู้ถูกจับมาที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงนางรอง ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อทำการบันทึกการจับกุม เพื่อนำตัวส่ง ศาลจังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบในระบบหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ CCOC พบว่าผู้ถูกจับรายนี้มีหมายจับอยู่อีกจำนวน 3 หมาย ดังต่อไปนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 9/2568 ลงวันที่ 29 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร”2.หมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 91/2566 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ลักทรัพย์ ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ฉ้อโกง”3.หมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.279/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสรราชการปลอม”
